วันนี้ (8 กรกฎาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเรื่องการดำเนินนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กรณีการกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า ได้พูดคุยกันตลอดเวลา จึงเข้าใจว่าหากมีความเรียบร้อยก็จะแถลงชี้แจงให้ได้ทราบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้สอบถามความเห็นเกี่ยวกับการใช้งบกับคณะกรรมการกฤษฎีกาไปแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่ทราบ แต่หากพร้อมก็จะส่งไปสอบถามทุกเรื่อง โดยย้ำว่าทุกอย่างจะต้องถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงแหล่งที่มาของเงินทั้ง 3 ช่องทางด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘เผ่าภูมิ’ โต้ World Bank มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้น GDP ได้เกิน 1% จ่อตัดสมาร์ทโฟนออกจากโครงการ
- World Bank ชี้ หากไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต แบงก์ชาติสามารถลดดอกเบี้ยได้อีก 0.50% ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า
เศรษฐายังกล่าวถึงกรณีการรับซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาระบุว่า สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามขอให้คณะรัฐมนตรีแก้ข้อตกลง 2 ข้อ ว่า ตนได้ยินเรื่องนี้มาเหมือนกัน และได้สอบถามไป ซึ่งสุทินบอกว่า ยังไม่ได้ลงนาม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การที่สุทินออกมาระบุว่ายังติดขัดในเรื่องข้อกฎหมาย โดยขณะนี้คณะทำงานของนายกรัฐมนตรีกำลังดูอยู่นั้น เศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้ติดขัดที่คณะทำงานของตน แต่ติดขัดอยู่ที่ข้อกฎหมาย พร้อมย้ำว่า ทุกอย่างต้องถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่าพบกลิ่นไม่ดีใช่หรือไม่ โครงการจึงถูกเลื่อนออกไป ตนไม่เข้าใจว่ากลิ่นไม่ดีคืออะไร ถ้าเป็นเรื่องทุจริต ตนไม่ยอมอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องเป็นไปตามความชอบธรรม ยึดหลักกฎหมายเป็นหลัก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากท้ายที่สุดต้องการแก้สัญญาใน 2 เรื่องคือ เรื่องเครื่องยนต์ เป็นเครื่องยนต์จีน และขอขยายระยะเวลาการส่งมอบออกไป นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนว่าอย่าไปคาดเดาดีกว่าว่าจะแก้ตรงไหน ขอให้เซ็นมาก่อนแล้วค่อยไปถามคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ทุกอย่างต้องผ่านคณะรัฐมนตรี และยืนยันว่าต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่กองทัพเรืออยากให้การลงนามแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ ทุกอย่างหากสามารถทำได้ ถูกต้องตามกฎหมาย และผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกา มีความชอบธรรม ก็จะดำเนินการโดยเร็วที่สุดในทุกๆ เรื่อง
เศรษฐายังกล่าวถึงกรณีเพลิงไหม้ที่ถนนเยาวราชว่ารัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาผู้เสียหายอย่างไรว่า ขอรับทราบรายงานก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบรายงาน ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงเรื่องการเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว แต่ไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลไม่ทำ ซึ่งรัฐบาลก็ดูแลเรื่องนี้อยู่ตลอด
นอกจากนี้ เศรษฐายังกล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานอย่างหนัก แต่ก็มีคดีเกิดขึ้นมากมายว่า ก็ตื่นเช้ามาทำงานเหมือนเดิม ให้ว่าไปตามกฎหมาย หากมีข้อข้องใจหรือข้อไม่สบายใจ เรามีองค์กรอิสระที่ต้องมาตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง ตนเองก็ต้องยอมรับในกระบวนการที่เราก้าวเข้ามาเป็นนักการเมือง และไม่ได้เสียกำลังใจ ก็ทำงานต่อไป