วานนี้ (7 พฤษภาคม) รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบหมายงานให้รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี รวมถึงกรณีที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง โดยมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีดังนี้ กรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้มีรักษาการนายกรัฐมนตรีลำดับดังต่อไปนี้
- ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1
- สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 2
- พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 3
- อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 4
- พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 5
- พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 6
ทั้งนี้ ในระหว่างรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนข้างต้นจะสั่งการใดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบประมาณอันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรีได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีเสียก่อน
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 41 บัญญัติให้ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรองนายกรัฐมนตรีหลายคนให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน
ถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทน และมาตรา 48 บัญญัติให้ผู้รักษาราชการแทนตามความในพระราชบัญญัติมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน
และวรรคสามบัญญัติให้ในกรณีที่มีกฎหมายอื่นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใดเป็นกรรมการหรือให้มีอำนาจหน้าที่อย่างใด ให้ผู้รักษาราชการแทนหรือผู้ปฏิบัติราชการแทนมีอำนาจหน้าที่เป็นกรรมการหรือมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งนั้นในการรักษาราชการแทนหรือปฏิบัติราชการแทนด้วย แล้วแต่กรณี
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายงานให้รองนายกรัฐมนตรีใหม่อีกด้วย
ภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 กำกับดูแลกระทรวงกลาโหม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กระทรวงพาณิชย์, สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, กรมประชาสัมพันธ์, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 กำกับดูแลกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ
อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 กำกับดูแลกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ
พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 กำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 กำกับดูแลกระทรวงพลังงาน กระทรวงยุติธรรม ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 3 คนนั้น
จักรพงษ์ แสงมณี ได้รับมอบหมายให้ดูแลสำนักงบประมาณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานรัฐบาลพัฒนาดิจิทัล
พิชิต ชื่นบาน กำกับดูแลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
รวมถึงได้รับมอบหมายโดยเฉพาะจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีให้เป็นผู้ตรวจร่างว่ามีความถูกต้องตามที่พิจารณาหรือไม่ และพิจารณากลั่นกรองเรื่องก่อนนำเสนอนายกรัฐมนตรี รวมถึงกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติทั้งหลาย หากจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ต้องผ่านการกลั่นกรองจากเขาก่อน
จิราพร สินธุไพร กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) และกองทุนหมู่บ้าน