วันนี้ (7 พฤษภาคม) พรรคเพื่อไทย นำโดย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และครอบครัว พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดนุพร ปุณณกันต์ รองประธานรณรงค์หาเสียงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคและรักษาการโฆษกพรรค
ขัตติยา สวัสดิผล, พชร ธรรมมล ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และผู้สมัคร ส.ส. กทม. แบบแบ่งเขต เช่น สุรชาติ เทียนทอง และ อนุสรณ์ ปั้นทอง ลงพื้นที่ขอคะแนนประชาชน บริเวณตลาดนัดจตุจักร และตลาดสด อ.ต.ก.
ทันทีที่เศรษฐาและคณะพรรคเพื่อไทยเดินทางมาถึง มีผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างรุมขอเซลฟีจำนวนมาก ประชาชนอวยพรขอให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ขอให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง บางรายเรียกนายเศรษฐาว่า ‘นายกฯ, ‘รอมานานแล้ว’ บางคนเข้าไปกระซิบข้างหูเศรษฐาว่า ‘เบื่อสองลุง’ และเศรษฐาได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาขอถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง
ช่วงหนึ่งเศรษฐาเดินเข้าไปร้านขายน้ำ และสั่งโกโก้เย็น โดยมีชื่อเมนูว่า ‘โกโก้เบื่อลุง’ ผู้สื่อข่าวถามเศรษฐา ว่ารสชาติเป็นอย่างไร เศรษฐาตอบว่า ‘โอ้ อร่อยดีครับ’
ระหว่างที่เศรษฐากำลังเดินขอคะแนนอยู่นั้น พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน และ ณภัทร ทวีสิน หรือ น็อบ ภรรยา และลูกชายของเศรษฐา เดินทางมาให้กำลังใจด้วย
จากนั้นเศรษฐาเดินเท้าไปยังตลาด อ.ต.ก. ซึ่งเศรษฐาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นตลาดที่ตนมาจับจ่ายใช้สอยเป็นประจำ มีร้านโปรด เช่น ร้านกุยช่าย ร้านทุเรียน โดยเศรษฐาชอบรับประทานทุเรียนพันธุ์ก้านยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทันทีที่เศรษฐาเดินถึงตลาด อ.ต.ก. พ่อค้าแม่ขายจำนวนมาก รวมถึงแรงงานต่างชาติ เข้ามาขอถ่ายรูปกับเศรษฐา ส่งเสียงเชียร์ ทำให้ สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ซึ่งเดินตามคณะหาเสียงมาด้วย กล่าวกับพ่อค้าแม่ขาย รวมถึงแรงงานต่างชาติว่า “ค่าแรง 600 เราไม่ได้ให้เฉพาะคนไทยนะ แต่พี่น้องที่ทำงานในประเทศเราก็ได้ทุกคน”
จากนั้นเศรษฐาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระหว่างลงพื้นที่ตลาด อ.ต.ก. เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตลาดแตกเหมือนกันนะมาที่ อ.ต.ก. เศรษฐาตอบว่า แล้วแต่ว่าเปรียบเทียบกับใคร ยินดี และดีใจ ตนเป็นขาประจำอยู่แล้ว ไม่ได้มาแค่หาเสียง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สะท้อนภาพว่ากระแสเราก็ดีเหมือนกัน เศรษฐากล่าวขอบคุณ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงหมัดเด็ดหรือยุทธศาสตร์ที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อชนะเลือกตั้ง เศรษฐาตอบว่า เราคงนำเสนอนโยบายต่อเนื่องไป ตนคิดว่าประเทศชาติบอบช้ำมา 8 ปีแล้ว พรรคเพื่อไทยพิสูจน์มาตลอดตั้งแต่ ไทยรักไทย พลังประชาชน ว่าเราคิดใหญ่ ทำเป็น นโยบายใหญ่ๆ ดีๆ เราทำได้มาตลอด เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชนตลอด ครั้งนี้ วันที่ 14 พฤษภาคม เป็นวันสำคัญวันหนึ่ง เราบอบช้ำมาเยอะ ไม่มีเวลาลองของใหม่ เราต้องกลับไปนั่งคิดว่าพรรคไหนทำให้เราได้ แล้วบุคลากรที่ยังอยู่ในพรรคก็มีอยู่เยอะมาก ตรงนี้เรามั่นใจว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าช่วงโค้งสุดท้าย พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายเด็ดออกมาเพื่อให้คนกาพรรคเพื่อไทย เศรษฐาตอบว่า หากดูจากหลายโพล คนที่ยังไม่ตัดสินใจมีเหลืออยู่น้อยมากแล้ว แต่ก็เหลืออยู่บ้าง หน้าที่ตอนนี้คือต้องขยายความนโยบายหลักของเรา ทำความเข้าใจ และให้ความมั่นใจว่าทำได้จริง พรรคเพื่อไทยตั้งแต่ 20 ปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จมาตลอดในการนำเสนอนโยบายใหญ่ จึงไม่แปลกใจที่เราจะทำได้อีก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อร้องเรียนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าส่วนหนึ่งเป็นของพรรคเพื่อไทยนั้น เศรษฐาตอบว่า มั่นใจในการทำงานของทีมงาน และการทำงานด้วยความเป็นธรรมของ กกต. ตรงนี้มีหลายกระแส และพี่น้องต้องจับตาด้วย เพราะการเลือกตั้งนี้ทุกคน ทุกพรรค ต้องการให้ขาวสะอาด สะท้อนภาพจริงที่ประชาชนอยากเห็น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหลายพรรคการเมืองเริ่มป่วย หรือออกอาการท้อและเหนื่อย เศรษฐาเป็นอย่างไรบ้าง เศรษฐาตอบว่า ตนว่าคงไม่มีใครท้อ แต่ตนป่วยมา 10 วันแล้ว ไม่มีท้อ พักผ่อนได้หลังวันที่ 14 พฤษภาคม มั่นใจได้ว่าเดินหน้า เหยียบคันเร่งเต็มที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามความเห็นต่อกระแสการตื่นตัวของประชาชนในการออกมาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าวันนี้ เศรษฐาตอบว่า ดีมากเลย คิดว่าเป็นการสะท้อนอย่างหนึ่ง ในช่วง 8 ปีเราเดือดร้อน เราเจ็บช้ำมาเยอะมากจากรัฐบาลรัฐประหาร ตนเชื่อว่าคราวนี้กระแสประชาธิปไตยจะมาแรง วันนี้ไม่แปลกใจที่คนออกมาเยอะ จึงดีใจและชื่นชม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงจำนวนผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทยมองว่าผิดปกติหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า ไม่แน่ใจ ต้องถามฝ่ายกฎหมาย เพราะส่วนตัวก็ลงพื้นที่ แต่มั่นใจว่า กกต. คงทำงานได้อย่างบริสุทธิ์ใจ มีความมุมานะ หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ออกมาขาวสะอาดที่สุด