วานนี้ (3 พฤษภาคม) พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อชาวฝั่งธนฯ’ ที่ลานตรงข้ามตลาดบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร นำโดย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคร่วมปราศรัย
เศรษฐากล่าวว่า มาบางแคคราวนี้ พบว่ามีบ้าน คอนโดมิเนียมสวยงามเกิดขึ้นรองรับความเจริญจำนวนมาก โดยเฉพาะบางแค มีคอนโด มีตลาดใหญ่หลายแห่ง มีถนนเพชรเกษมเป็นเส้นคมนาคมหลัก แต่หลายคนก็บอกว่าพรรคเพื่อไทยมีแต่นโยบายเอาใจคนชั้นกลาง ซึ่งในความจริงแล้วนโยบายสำหรับคนเมืองรายได้น้อย ประชาชนคนทำงานหาเช้ากินค่ำ ควรต้องได้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า แต่ปรากฏว่ามีราคาแพง พรรคเพื่อไทยต้องการให้คนไทยได้ใช้ขนส่งสาธารณะในราคาถูก จึงเสนอนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเพื่อลดรายจ่ายให้ประชาชน
“การเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นมวยรอง เพราะเราเริ่มต้นที่ 0 แต่ พล.อ. ประยุทธ์เริ่มต้นที่ 250 ทำอย่างไรเราจะเปลี่ยนขั้วอำนาจนี้เพื่อพาพี่น้องหลุดพ้นจาก พล.อ. ประยุทธ์ เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยเสียงไม่พอ เขาก็เสนอ พล.อ. ประยุทธ์กลับมาแน่นอน เราจะเปลี่ยนประเทศได้ทางเดียวคือเข้าคูหากาเพื่อไทย เพื่อเศรษฐกิจ สังคมเท่าเทียม และอนาคตที่ดีกว่า” เศรษฐากล่าว
ขณะที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยยืนยันว่า จะผลักดันคดีคนเสื้อแดงที่ยังค้างไม่คืบหน้า และใช้กลไกสภาแก้ไขพระราชบัญญัติคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ประชาชนผู้เสียหายในคดีที่ ป.ป.ช. ปัดตก สามารถฟ้องคดีโดยตรงต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ได้
“เราเจ็บปวดมากว่า 9 ปี พอแล้วสำหรับรัฐบาลชุดนี้ ทุกคนที่มีจุดหมายเดียวกันที่จะไม่เอา 3 ป. มาร่วมเดินหน้ากับพรรคเพื่อไทย เที่ยวนี้ถ้าต้องการเปลี่ยน ถ้าปลดจากเผด็จการ นับ 1 ที่กรุงเทพฯ นับ 1 ทั้ง 33 เขต กาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบไปด้วยกัน เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค” ณัฐวุฒิกล่าว