THE STANDARD เพิ่งไปเยี่ยมชมคอลเล็กชัน Fall/Winter 2018 ของแบรนด์ไทยอย่าง Sretsis ที่ปารีสแฟชั่นวีก ซึ่งในซีซันนี้ พิมพ์ดาว สุขะหุต ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2002 ได้หยิบเอาช่วงเวลา magic hour ที่ตากล้องใช้เรียกช่วงที่แสงสวยที่สุดตอนพระอาทิตย์ขึ้นและก่อนพระอาทิตย์ตกมาบอกเล่าเป็นเสื้อผ้าที่มีให้เลือกใส่ตั้งแต่ตื่นนอนจนไปถึงยามค่ำคืน
การมาปารีสในครั้งนี้ของแบรนด์ Sretsis ไม่ใช่แค่มาเปิดตัวคอลเล็กชันและรองเท้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการบุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังอีกครั้ง รวมทั้งการพบปะกับบายเออร์และตัวแทนรีเทลชั้นนำทั่วโลก ซึ่งหลายแบรนด์ไทยก็เริ่มหันมาจัดผลงานตามโชว์รูมต่างๆ ในระดับสากลเพื่อหวังขยายธุรกิจ โดยทุกวันนี้ Sretsis ก็มีร้านที่วางขายสินค้าของแบรนด์ทั้งในออสเตรเลีย ฮ่องกง อเมริกา ส่วนที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับร้านของตัวเองชื่อ ‘Sretsis Inn’
สำหรับคอลเล็กชันเสื้อผ้า Fall/Winter 2018 เริ่มจากชุดนอนหรือเลานจ์แวร์ชิลล์ๆ สไตล์ลำลองที่ใช้ใส่อยู่บ้าน อย่างเสื้อยืดพิมพ์ลายและกางเกงวอร์มพิมพ์ลายผ้าคอตตอนเนื้อหนา ถัดมาช่วงกลางวันก็เป็นชุดทำงานที่จับเอาชุดสูทและงานเทเลอร์มาเป็นแรงบันดาลใจ โดยนำผ้าลายฮาวน์สทูธของสูทผู้ชายกลายร่างมาเป็นโค้ตและแจ็กเก็ตสูทประดับเฟอร์ลายเสือดาว ซึ่งถึงแม้ว่าตัวผ้าอาจจะหยิบยืมมาจากบุรุษ แต่พิมพ์ดาวก็ไม่ลืมใส่ความเป็นผู้หญิงเข้าไปผ่านการเน้นช่วงเอวให้ดูโค้งเว้าอย่างเห็นได้ชัด ส่วนชุดกลางคืนก็มีความหวานขึ้นมาหน่อยด้วยการใช้ผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสปักลายดอกทิวลิป และผ้าตาดลายดอกสีชมพูทองที่เด่นมาแต่ไกลมาใช้
พิมพ์ดาวกล่าวว่าเธอไม่ได้วาดฝันคาแรกเตอร์ของผู้หญิงในตอนที่ออกแบบคอลเล็กชันนี้ แต่เธออยากจะทำเสื้อผ้าที่ผู้หญิงใส่ได้ทุกวาระโอกาส มันเลยทำให้อดนึกไม่ได้ว่ากระแสสังคมเรื่องสิทธิสตรีส่งอิทธิพลต่องานออกแบบแค่ไหน เพราะจริงอยู่ที่เสื้อผ้าดูหวานและมีความเป็นผู้หญิงสูง แต่ในขณะเดียวกันก็เน้นช่วงไหล่ที่สตรอง หรือแขนพองที่ใส่แล้วดูมีพลังขึ้นอีกเท่า ซึ่งเหล่านี้ก็คือรายละเอียดของเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงสมัยใหม่ที่มีความสามารถรอบด้าน ไม่ยอมจำนนอยู่ในกรอบ และแม้จะเข้าใจอดีต แต่ในดวงตากลับมองไปสู่อนาคต
ด้านเครื่องประดับหลักก็คือสร้อยมุกที่ปรับระดับได้ และรองเท้าที่ Sretsis ร่วมมือกับ Carel แบรนด์รองเท้าเก่าแก่ของฝรั่งเศสที่เหล่า It Girls ชื่นชอบ โดยนำเอารองเท้าแมรีเจน รุ่น Kina มาแปลงโฉมใหม่ด้วยกากเพชรและตัวหนังสือเพชร เป็นต้น