Shazam! Fury of the Gods คือภาพยนตร์ภาคที่ 2 ของซูเปอร์ฮีโร่สุดกวนแห่งค่าย DC ซึ่งยังคงได้ David F. Sandberg ผู้กำกับจากภาคแรกกลับมาสานต่อเรื่องราวเช่นเดิม
โดยภาคนี้จะว่าด้วยเรื่องราวของ Billy (Asher Angel และ Zachary Levi) และพี่น้องบ้านอุปถัมภ์ที่ได้รับพลังเทพเจ้าจากภาคแรก เริ่มต้นฟอร์มทีมซูเปอร์ฮีโร่ของตัวเองเพื่อออกช่วยเหลือผู้คน จนชื่อเสียงของพวกเขาเริ่มโด่งดังมากขึ้น กระทั่งวันหนึ่ง Hespera (Helen Mirren), Kalypso (Lucy Liu) และ Anthea (Rachel Zegler) สามพี่น้องที่เป็นลูกสาวของเทพ Atlas ก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อทวงพลังเทพเจ้าของ Billy กลับคืนมา และทำเป้าหมายบางอย่างให้สำเร็จ Billy และแก๊งฮีโร่จึงต้องหยุดยั้งสามพี่น้องให้สำเร็จ
ถ้าย้อนกลับไปดูผลงานช่วงแรกๆ ของ DCEU ตั้งแต่ Man of Steel (2013) จนถึง Aquaman (2018) ภาพยนตร์เกือบทั้งหมดจะมีจุดเด่นในแง่ของเนื้อเรื่องที่ตึงเครียด เข้มข้น จริงจัง จนกลายเป็นจุดขายของจักรวาล ขนาดที่ว่าภาพยนตร์อย่าง Deadpool 2 (2018) ก็นำไปล้อเลียนว่า ‘โคตรดาร์กอย่างกับจักรวาล DC’
แต่ Shazam! (2019) ของผู้กำกับ David F. Sandberg กลับเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวของฮีโร่พลังเทพเจ้าในรูปแบบของภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้ เน้นความสนุกสนานแบบที่ผู้ชมคุ้นเคยกันดี บวกกับความเรียบง่ายของภาพยนตร์ที่เข้าถึงผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย มันจึงทำให้ Shazam! ดูโดดเด่นขึ้นมาจากหลายๆ ผลงานก่อนหน้าของ DCEU อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสำหรับผู้เขียนเองก็ชื่นชอบในแนวทางที่ Shazam! ภาคแรกนำเสนออยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะมุกตลกขบขันที่สร้างเสียงหัวเราะให้เราได้ตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงคาแรกเตอร์ของ Billy และแก๊งพี่น้องที่ถูกออกแบบมาได้อย่างจัดจ้าน
ตัดสลับมาที่ Shazam! Fury of the Gods ดูเหมือนว่าผู้กำกับและทีมสร้างจะทราบเป็นอย่างดีว่าเอกลักษณ์สำคัญของ Shazam! คืออะไร พวกเขาจึงยังคงรักษามนตร์เสน่ห์ของภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้ที่สามารถดูได้ทั้งครอบครัวไว้อย่างครบถ้วน ทั้งความตลกขบขันที่ยังเรียกเสียงหัวเราะให้เราได้เสมอ และความเรียบง่ายของเนื้อเรื่องที่ผู้ชมสามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก
ขณะเดียวกันสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อเสริมให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลมกล่อมมากขึ้น คือฉากแอ็กชันที่ถูกใส่เข้ามามากขึ้นกว่าภาคแรกพอสมควร ไล่เรียงตั้งแต่ฉากการออกปฏิบัติภารกิจของแก๊งฮีโร่สุดกวนในช่วงเปิดเรื่องที่ฉายภาพความเป็นทีมเวิร์กของตัวละครหลักให้เราได้เห็น ฉากการเผชิญหน้าระหว่างสามพี่น้องที่โชว์พลังเทพเจ้าสุดแกร่งเป็นครั้งแรก และฉากถล่มเมืองสุดวินาศสันตะโรในองก์สุดท้ายที่ผสมผสานความแอ็กชันคอเมดี้ได้อย่างสนุกสนาน
จุดเด่นข้อต่อมาที่เราชื่นชอบเป็นการส่วนตัว คือการสอดแทรกกลิ่นอายโรแมนติกสไตล์ชีวิตวัยรุ่นเข้ามาเสริม บวกกับเคมีที่เข้ากันระหว่างสองตัวละครหลักอย่าง Freddy (Jack Dylan Grazer และ Adam Brody) และ Anthea ก็ช่วยให้ตัวภาพยนตร์มีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าภาคแรก และสามารถสร้างรอยยิ้มให้เราได้เป็นอย่างดี (โดยเฉพาะเสน่ห์ของ Rachel Zegler ที่ทำให้ตกหลุมรักได้ตั้งแต่ฉากแรกที่เธอปรากฏตัว)
รวมถึงการกระจายบทบาทให้เราได้ทำความรู้จักกับเหล่าพี่น้องบ้านอุปถัมภ์และความสามารถของพวกเขามากขึ้นกว่าภาคแรก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของสองคู่หูอย่าง Billy และ Freddy ที่ดูโตขึ้นและแน่นแฟ้นมากขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ชักชวนให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับการทำภารกิจของพวกเขาไปได้ตลอดทั้งเรื่อง
ในส่วนของข้อสังเกต ด้วยความที่ตัวภาพยนตร์มีความเรียบง่าย มีประเด็นที่เข้าถึงได้ไม่ยาก ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนัก เราจึงคิดว่า Shazam! Fury of the Gods อาจจะไม่ตอบโจทย์ผู้ชมที่ต้องการเสพเนื้อเรื่องที่เข้มข้นจริงจัง หรืออยากเห็นฉากลุ้นระทึกให้เราตื่นเต้นไปกับตัวละครเท่าไรนัก ดังนั้นแล้วจึงอาจขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้ชมแต่ละคนว่าจะถูกจริตกับความเรียบง่ายที่ภาพยนตร์ต้องการนำเสนอหรือเปล่า ซึ่งสำหรับผู้เขียน เราค่อนข้างสนุกสนานกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากพอสมควร และยังอยากเห็นเหล่าฮีโร่สุดกวนแก๊งนี้มีบทบาทต่อไปอีกในอนาคต ภายใต้จักรวาล DCU ที่นำโดย James Gunn และ Peter Safran เพราะเราคิดว่าคาแรกเตอร์สุดจัดจ้านของพวกเขาจะสามารถนำไปต่อยอดและสร้างสีสันให้กับจักรวาล DCU ได้แน่นอน
ในภาพรวม Shazam! Fury of the Gods เป็นภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้ที่ยังคงรักษาจุดเด่นของภาคแรกเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน เสริมด้วยฉากแอ็กชันที่ถูกอัปสเกลให้ใหญ่โตมากขึ้น สอดแทรกด้วยกลิ่นอายโรแมนติกหวานๆ ที่ชวนให้เราอมยิ้ม รวมถึงความสัมพันธ์ของตัวละครที่โตขึ้นและแน่นแฟ้นมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้สนุกๆ ที่สามารถพาครอบครัวไปชมร่วมกันได้ในวันหยุด เราคิดว่า Shazam! Fury of the Gods เรื่องนี้น่าจะสร้างเสียงหัวเราะและความบันเทิงให้กับคุณได้อย่างแน่นอน
Shazam! Fury of the Gods เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่:
ภาพ: Warner Bros. Pictures