เพราะโลกของเราเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่ทุกวัน แต่ทุกเวลา ระหว่างนาทีนี้กับนาทีหน้าก็อาจจะมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นแล้วก็ได้
โลกของกีฬาเองก็เหมือนกัน ตลอดปี 2024 มีความเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าหลายอย่างเกิดขึ้น แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเป็นเรื่องเก่าเสมอ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้าต่างหากที่น่าสนใจและควรจะรู้ไว้
เทรนด์ใหม่ของโลกกีฬาในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2025 จะเป็นอย่างไรกันบ้างนะ?
#1 โค้ช AI (เก่งกว่าโค้ชคีย์บอร์ดแน่นอน)
กีฬาเป็นสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยความมานะพยายามของผู้เล่น แต่สิ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ ความรู้จากผู้สอนว่าเก่งจริงไหม รู้จริงไหม และสอนให้เข้าใจได้ไหม
ที่ผ่านมามันเป็นเรื่องของโชคและดวงด้วย ถ้าเจอผู้สอนดีก็ดีไป จะเป็นนักกีฬาอาชีพหรือเป็นนักกีฬาสมัครเล่นที่เน้นสุขภาพ เจอคนสอนดีก็เหมือนถูกหวย ได้พัฒนาร่างกายและเทคนิคการเล่นของตัวเอง
แต่ปัญหาคือ นอกจากจะไม่รู้ว่าคนไหนสอนดีแล้ว ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสเช่นนั้นด้วย
เรื่องที่เป็นปัญหานี้จะหมดไปในอนาคตอันใกล้ เพราะในวงการกีฬาเริ่มมีการนำเทคโนโลยี ‘AI’ เข้ามาช่วยในการฝึกสอน ทำให้นักกีฬาจะอาชีพหรือสมัครเล่นก็ตาม สามารถเรียนรู้การเล่นและพัฒนาขีดความสามารถได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญคือทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่มีขีดจำกัดอีกต่อไป
ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน BeONE Sports ที่จะให้ AI ช่วยดูท่าทางของคุณในระหว่างการซ้อมว่าทำถูกต้องไหม ผ่านการเปิดกล้องบนสมาร์ทโฟนของคุณเอง ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ทุกครั้งที่ออกท่าทาง AI จะวิเคราะห์ให้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่
และถ้าทำผิดควรจะแก้ไขอย่างไร ก็สามารถบอกกันได้แบบเรียลไทม์
ลองจินตนาการว่าคุณเป็นเด็กที่รักการเล่นฟุตบอลแต่อยู่พื้นที่ห่างไกล จะนั่งรถไปเรียนจากโค้ชทุกวันก็กินเวลาหลายชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีนี้อย่างน้อยก็ช่วยทำให้การเรียนรู้สะดวกขึ้น ส่วนจะทำได้ดีแค่ไหนอยู่ที่ความขยันของแต่ละคนเอง
#2 Wearable Tech + AI วิเคราะห์แม่นกว่าตาเห็น
ความจริงเทรนด์เรื่อง Wearable Tech ในเกมกีฬามีมาหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ GPS จับการเคลื่อนไหวในการฝึกซ้อมและในการแข่งขันจริง ไปจนถึงการวิเคราะห์ที่ลึกไปกว่านั้น เช่น การใช้เซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับจำนวนการจับบอลด้วยเท้าแต่ละข้าง ความเร็วในการวิ่ง จำนวนครั้งที่วิ่งเร็ว หรือแรงเหวี่ยงจากขาแต่ละข้าง
แต่ตอนนี้เราสามารถไปได้ไกลกว่านั้นแล้ว เพราะเราสามารถตีบวกอุปกรณ์ล้ำสมัยเหล่านี้เข้ากับเทคโนโลยี AI ทำให้สามารถวิเคราะห์การเล่นได้อย่างรวดเร็วในระดับเรียลไทม์ ไม่ต้องมานั่งตัดคลิปตัดฟุตกันให้เหนื่อย
ไม่ใช่แค่เห็นกันในระหว่างการฝึกซ้อม แต่เห็นกันได้ถึงการแข่งขันจริง ซึ่งจะมีส่วนในการกำหนดการแข่งขันได้ เพราะโค้ชสามารถสั่งการหรือตัดสินใจได้ ผู้เล่นเองก็สามารถรู้ว่าตัวเองทำดีหรือไม่ดีในส่วนไหน
#3 ดูกีฬาให้อินขึ้นแบบ Immersive ด้วย AR
ยุคนี้แฟนกีฬาไม่ได้ดูเอาแค่ความสนุกอย่างเดียว และเราไม่ได้คุยกันแค่เรื่องของความรู้หรือประสบการณ์เท่านั้น เพราะตัวเลขสถิติก็เป็นเรื่องที่เอามาคุยกันได้สนุกไม่น้อยไปกว่ากัน
เรื่องนี้ไม่ได้เกินจริง เพราะในรายการวิเคราะห์ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล หรือบาสเกตบอล ต่างก็มีการนำตัวเลขสถิติมาใช้ประกอบการวิเคราะห์กันอย่างสนุกสนานให้ได้อรรถรสมากกว่าแค่เรื่องของแท็กติก เทคนิค และอื่นๆ
ลองคิดว่าถ้าเราดูอยู่แล้วมองเห็นสถิติขึ้นหน้าจอแบบสดๆ จะสนุกขึ้นแค่ไหน?
ควอเตอร์แบ็กคนนี้ขว้างบอลได้ระยะไกลเท่านี้ ตัววิ่งทำระยะได้เท่านี้ หรือนักฟุตบอลครอสบอลไปแล้วกี่ครั้งในเกมนี้ เข้าจุดไหนหรือถึงเพื่อนคนไหนบ้าง
สิ่งเหล่านี้จะเป็นประสบการณ์ใหม่ในการรับชมกีฬาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในปี 2023 Apple กับ Walt Disney เคยประกาศความร่วมมือในการนำเทคโนโลยี Augmented Reality หรือ AR มาใช้คู่กับ Apple Vision Pro ที่นอกจากจะดูได้พร้อมกันถึง 5 สนามแล้ว ยังมีสถิติประกอบให้ดูด้วย
ESPN ก็มีการนำ AR มาใช้เพื่อให้แฟนๆ ได้เห็นข้อมูลในระหว่างการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล ซึ่งนอกจากจะสร้างสีสันแล้ว ยังเป็นการสร้าง Engagement กับผู้ชมด้วย
ดังนั้น AR จะเข้ามาเปิดประสบการณ์ Immersive ให้เสมือนเราได้ลงไปเล่นอยู่ในสนามด้วยแน่นอน
#4 VAR ที่ไม่ใช่ VAR แบบนั้น
เอ่ยชื่อระบบ Video Assistant Referee (VAR) แฟนกีฬาคงรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะมีมาสักพักแล้ว และเอ่อ…ชื่อเสียงไม่ค่อยจะดีสักเท่าไรนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมฟุตบอล
ในความจริงแล้ว VAR ไม่ได้มีแค่ในเกมฟุตบอล แต่มีอีกหลายกีฬาที่นำมาใช้และหลายกีฬาที่ว่านั้นก็ใช้ได้ผลกันค่อนข้างดี ซึ่งปัจจุบัน VAR กำลังจะถูกอัปเกรดขึ้นไปอีกขั้นแล้วด้วยการนำ AI เข้ามาใช้ในการช่วยการตัดสิน
AI เนี่ยนะจะตัดสินกีฬา?
ใช่! AI สามารถช่วยตัดสินกีฬาได้และหลายประเภทกีฬามีแผนการจะนำมาใช้ เช่น ในการแข่งขันรถ F1 ที่เป็นเกมกีฬาที่ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในระดับมิลลิวินาที VAR ซึ่งเริ่มใช้มา 2 ปีแล้ว
โดย AI สามารถช่วยในการตัดสินได้ เพราะถูกสอนให้เข้าใจใน ‘กฎ’ อย่างละเอียด ที่สำคัญคือจะเป็นการตัดสินโดยปราศจาก Bias หรือ ‘อคติ’ ด้วย
อย่างไรก็ดี เพราะเกมกีฬาบางครั้งมีมูลค่ามหาศาลเกินกว่าจะเสี่ยงไหว VAR แบบมี AI ต้องถูกทำให้พร้อมและแน่ใจจริงๆ ซึ่งระหว่างนี้ก็จะนำมาใช้เป็นผู้ช่วยไปก่อน จนสักวันที่มั่นใจได้ว่าชัวร์ก็น่าจะได้เห็นการตัดสินด้วยเทคโนโลยีแบบเต็มๆ
#5 ป้องกันการบาดเจ็บแบบดิจิทัล
ทุกวันนี้หนึ่งในปัญหาใหญ่ของโลกกีฬาคือเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่น ซึ่งเกิดจากทั้งการแข่งขันที่เข้มข้นรุนแรง ใช้ศักยภาพของร่างกายสูงมาก และอีกเรื่องคือจำนวนโปรแกรมการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นแบบไม่พักเลย
หลายปีที่ผ่านมาในหลายวงการกีฬามีการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อช่วยประเมินสภาพร่างกายของนักกีฬาว่าจะเป็นอย่างไร ยังเล่นไหวแค่ไหน ควรจะลงสนามกี่นาที หรือควรจะพักไปเลยเพื่อไม่ให้บาดเจ็บ เช่น ในอเมริกันฟุตบอล NFL จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับรอบชุดแข่งขัน เพื่อเก็บข้อมูลอย่างละเอียดในการทำนายอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้น
แต่ต่อไปด้วยอุปกรณ์ล้ำสมัยและ AI ที่ล้ำหน้า นักกีฬาสามารถใช้อุปกรณ์ตรวจจับ โดยที่จะรู้สภาพร่างกายของตัวเองได้เลยว่าตอนนี้ประเมินแล้วสภาพร่างกายเป็นอย่างไร ความสมบูรณ์เหลือกี่เปอร์เซ็นต์ ตรงไหนต้องระวังเป็นพิเศษ
ข้อมูลเหล่านี้ยังจะช่วยทีมสตาฟฟ์ในการดูแลนักกีฬาได้ดียิ่งขึ้นด้วย เข้าใจปัญหาของแต่ละคน สามารถ Customization การดูแลที่แตกต่างกันออกไปได้
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทั้งเกิดขึ้นแล้ว กำลังพัฒนาอยู่ และมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต ซึ่งจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนกับโลกของกีฬามากขึ้นเรื่อยๆ ทุกที
น่าสนใจว่าในอดีตกีฬาเป็นเรื่องของ ‘ศิลป์’ มากกว่า ‘ศาสตร์’ แต่ปัจจุบันและอนาคตดูเหมือนกำลังจะเป็นเรื่องของ ‘ศาสตร์’ มากกว่า ‘ศิลป์’
โลกกีฬาจะปรับตัวกันอย่างไรและจะมีหน้าตาแบบไหนในอนาคต?
เอาไว้คิดตามกันสนุกๆ ต้อนรับปี 2025 นะทุกคน 🙂
อ้างอิง: