ปี 2022 กำลังจะจบลงไปพร้อมกับเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกกีฬาตลอดปีที่ผ่านมา
ตั้งแต่ ลิโอเนล เมสซี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติอาร์เจนตินาได้สำเร็จ, โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกประเภทชาย ประกาศแขวนแร็กเก็ต ไปจนถึงการก้าวขึ้นมือหนึ่งของโลกของ โปรจีน-อาฒยา ฐิติกุล โปรกอล์ฟสาวไทยวัย 19 ปี
ในการแข่งขันกีฬา เรื่องราวคือสิ่งที่สร้างความประทับใจและแรงบันดาลใจ แต่โมเมนต์สำคัญเพียงช่วงวินาทีเดียวคือสิ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำเรื่องราวของคุณได้ตลอดไป
วันนี้ THE STANDARD ได้สรุปโมเมนต์สุดประทับใจในโลกกีฬาที่เกิดขึ้นในปี 2022 มาให้ทุกท่านแล้ว
1. ‘A kiss to build a dream on’ การจูบถ้วยแชมป์โลกครั้งแรกของ ลิโอเนล เมสซี
ฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศจะถูกจดจำไปตลอดกาล ในฐานะเกมฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศที่สนุกที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่ออาร์เจนตินาขึ้นนำฝรั่งเศสไปก่อน 2-0 ไปจนถึงนาทีที่ 80 ที่ คีเลียน เอ็มบัปเป ยิง 2 ประตูให้ฝรั่งเศสภายในเวลา 97 วินาที ทำให้จบเกมเสมอกัน 2-2 ในเวลาปกติ ก่อนจะที่ทั้งสองทีมจะยิงประตูกันได้อีกฝั่งละลูกในช่วงต่อเวลาพิเศษ จนต้องตัดสินแชมป์ด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นอาร์เจนตินาที่เอาชนะการดวลจุดโทษไปได้ 4-2
แต่ภาพที่ทุกคนรอคอยคือการสัมผัสถ้วยแชมป์โลกของ ลิโอเนล เมสซี ที่ถูกปูเรื่องมาตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์จะเริ่มต้น ว่านี่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขา จนทำให้นักเตะและทีมงานของอาร์เจนตินาร่วมกันต่อสู้แบบ One for All และ All for One เพื่อสร้างความฝันแชมป์โลกของเมสซีให้กลายเป็นจริง
และสุดท้ายเมื่อพวกเขาได้รับเหรียญรางวัลแชมป์โลก ก่อนที่พิธีมอบถ้วยจะเริ่มต้นขึ้น เมสซีก็เดินไปสัมผัสและจูบถ้วยแชมป์โลก เพื่อส่งสัญญาณบ่งบอกว่า ฝันที่เคยร่วมกันวาดไว้ ตอนนี้กลายเป็นความจริงแล้ว
2. ‘Secret Thank You’ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ กล่าวอำลาสังเวียนเทนนิส พร้อมขอบคุณ ราฟาเอล นาดาล คู่ปรับ/เพื่อนรักตลอดกาล
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นับเป็นหนึ่งในตำนานของวงการกีฬาโลก ที่โปรโมตกีฬาเทนนิสให้เข้าไปอยู่ในใจของแฟนกีฬาหลายคน ด้วยสไตล์การเล่นที่มีคลาสและการเป็นต้นแบบที่ดีให้กับนักกีฬารุ่นต่อๆ ไป บวกกับความสำเร็จด้วยแชมป์แกรนด์สแลม 20 สมัย
แน่นอนว่าในการลงเล่นเทนนิสอาชีพครั้งสุดท้ายของเขาจะได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งเฟเดอเรอร์เลือกที่จะลงแข่งขันศึกเลเวอร์คัพ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในประเภทชายคู่กับ ราฟาเอล นาดาล อีกหนึ่งนักกีฬาระดับตำนานที่เป็นคู่แข่งอีกฝั่งของคอร์ตตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา
บรรยากาศภายในวันสุดท้ายของการเป็นนักเทนนิสอาชีพของเฟเดอเรอร์เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม จนกระทั่งการแข่งขันจบลง เฟเดอเรอร์นั่งลงร้องไห้คู่กับ ราฟาเอล นาดาล พร้อมภาพของทั้งคู่จับมือให้กำลังใจกันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เป็นโมเมนต์ประวัติศาสตร์
พวกเขาพบกันในสนามแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2004 และลงสนามไปเจอกันเองทั้งหมด 40 ครั้ง ซึ่งเป็นรอบชิงแกรนด์สแลมทั้งหมด 9 ครั้ง และเป็นนาดาลที่เอาชนะไปได้มากกว่าที่ 24-16 ครั้ง
ในเวลาต่อมาเฟเดอเรอร์ได้เปิดเผยว่า การจับมือช่วงเวลาสั้นๆ นั้นเพื่อบอกกับนาดาลว่า “ขอบคุณนะ”
“ตอนนั้นผมต้องการจะบอกว่าขอบคุณแบบลับๆ ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ผมกำลังร้องไห้อย่างหนัก และผมไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่บ้าง แค่รู้ว่ามีความสุขที่ได้ใช้เวลานี้อยู่กับทุกคน
“ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่งดงามที่ได้นั่งอยู่ตรงนั้น ซึมซับบรรยากาศระหว่างที่ดนตรีกำลังบรรเลงไป และคุณก็อาจจะลืมไปแล้วว่ากำลังถูกจับภาพอยู่
“ตอนนั้นที่เสียงเพลงกำลังดังขึ้น ผมจึงไม่สามารถพูดอะไรได้ ผมแค่เอื้อมมือไปจับมือเขา เพื่อบอกว่าขอบคุณนะ”
3. No War Please สารต่อต้านสงครามจาก อังเดร รูเบลฟ นักเทนนิสรัสเซีย
นับตั้งแต่การส่งกำลังทหารรัสเซียบุกเข้าสู่ยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 วงการกีฬาได้ตัดสินใจลุกขึ้นต่อต้านการทำสงครามในครั้งนี้ ไม่ต่างกับภาคส่วนอื่นๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
โดยทั้งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) และคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ต่างก็มีบทลงโทษที่ทำให้ทั้งสโมสรฟุตบอลและนักกีฬาจากทั้งรัสเซียและเบลารุสถูกแบนจากการแข่งขันนานาชาติหลายระดับ
แต่ในขณะเดียวกันนักกีฬารัสเซียหลายคนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ต่างก็ออกมาเรียกร้องให้ยุติสงคราม หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นคือ อังเดร รูเบลฟ นักเทนนิสรัสเซีย ที่เดินไปเขียนบนกล้องถ่ายทอดสดการแข่งขัน Dubai Tennis Championship ว่า ‘No War Please’ หรือ ขอให้ไม่มีสงคราม เพียง 1 วันหลังจากที่รัสเซียบุกเข้าสู่ยูเครน
พร้อมให้สัมภาษณ์กับทาง Tennis TV ในงานแถลงข่าวว่า
“ในช่วงเวลานี้ คุณรู้ว่าแมตช์การแข่งขันไม่มีความสำคัญ ดังนั้นนี่ไม่ได้เกี่ยวกับแมตช์ของผม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นสิ่งที่แย่กว่ามาก คุณรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่เราต้องมีสันติภาพในโลก และเคารพซึ่งกันและกัน และร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
“เราควรที่จะดูแลโลกของเรา และดูแลกันและกัน นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”
4. Happy Tears เซเรนา วิลเลียมส์ เตรียมพัฒนาออกจากการแข่งขันเทนนิส
เซเรนา วิลเลียมส์ หลังจากที่ประกาศผ่านบทสัมภาษณ์กับ Vogue นิตยสารสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนสิงหาคม ว่าเธอจะพัฒนาตัวเองออกจากวงการเทนนิส ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่การแข่งขันยูเอสโอเพน 2022 ศึกแกรนด์สแลมรายการสุดท้ายของปี และเป็นรายการที่เซเรนาเคยคว้าแชมป์เมเจอร์รายการแรกได้ที่นี่เมื่อปี 1999
ด้วยการที่เซเรนาลงแข่งขันไปเพียง 4 แมตช์ก่อนจะเข้ามาแข่งขันรายการนี้ที่นิวยอร์ก ทำให้ทุกคนเฝ้าติดตามว่าผลงานของเธอในครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไร และทำให้ตั๋วเข้าชมการแข่งขันขายหมดทุกที่นั่งสำหรับเกมของเซเรนา
ก่อนที่เซเรนาจะไปจบการแข่งขันในรอบที่ 3 ด้วยความพ่ายแพ้ให้กับ อัจลา ทอมยาโนวิช นักหวดจากออสเตรเลีย
บรรยากาศในสนามเต็มไปด้วยน้ำตาจากทั้งเซเรนา ทีมงาน และแฟนกีฬาในสนาม ด้วยผลงานแชมป์เมเจอร์ 23 รายการ เธอคือหนึ่งในนักเทนนิสหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล พร้อมกับสไตล์การเล่นที่ทำให้วงการเทนนิสหญิงเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ซึ่งเซเรนายืนยันว่านี่ไม่ใช่น้ำตาของความเสียใจ แต่คือน้ำตาของความสุขที่เกิดขึ้น
“นี่คือน้ำตาแห่งความสุข และฉันจะไม่ได้เป็นเซเรนาในวันนี้ ถ้าไม่มีวีนัส (วีนัส วิลเลียมส์ ผู้เป็นพี่สาว) ดังนั้นขอบคุณมาก วีนัส เธอคือเหตุผลที่ทำให้ เซเรนา วิลเลียมส์ เกิดขึ้นมาได้ ที่ผ่านมาเป็นการเดินทางที่สนุกมากที่สุดที่ฉันเคยได้ร่วมเดินทางมา” เซเรนากล่าวหลังจบแมตช์อำลาสนาม
แต่เซเรนาได้ให้สัมภาษณ์หลังจากนั้นว่า เธอยังมีโอกาสที่จะกลับมาลงแข่งขัน เมื่อเธอเห็น ทอม เบรดี ควอเตอร์แบ็กของ แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ตัดสินใจกลับมาลงแข่งขันแม้ว่าจะประกาศวางมือไปแล้ว ทำให้ในปี 2023 เราอาจจะได้เห็นเซเรนากลับมาลงแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง
5. Coming Home วันที่ บริตต์นีย์ ไกรเนอร์ นักกีฬาสหรัฐอเมริกาได้กลับบ้าน หลังถูกรัสเซียจับกุมเป็นเวลาเกือบ 10 เดือน
วันที่ 9 ธันวาคม 2022 คือวันที่ บริตต์นีย์ ไกรเนอร์ นักบาสเกตบอลหญิงชาวอเมริกัน เดินทางกลับถึงสหรัฐอเมริกา หลังถูกศาลรัสเซียสั่งจำคุกมาเกือบ 10 เดือน ภายใต้แผนการแลกตัวนักโทษที่เป็นประเด็นดังในช่วงที่ผ่านมา
โดยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ไกรเนอร์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย ถูกรัสเซียควบคุมตัว หลังจากเดินทางถึงรัสเซียเพื่อเตรียมแข่งขันบาสเกตบอล เนื่องจากถูกตรวจพบว่าในกระเป๋ามีเครื่องสูบบุหรี่ไฟฟ้า และมีน้ำมันกัญชาที่เป็นสารต้องห้ามผิดกฎหมายในรัสเซีย
ไกรเนอร์ถูกศาลสั่งจำคุกทั้งหมด 9 ปี ข้อหามีสารเสพติดในครอบครอง เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม
กรณีของไกรเนอร์ถูกจับตามอง เนื่องจากการรุกรานของทหารรัสเซียที่บุกเข้ายูเครน ทำให้การจับกุมไกรเนอร์กลายเป็นประเด็นที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
“ฉันกลัวว่าฉันจะต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป” ส่วนหนึ่งของจดหมายที่ไกรเนอร์ส่งถึง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
จนสุดท้ายได้เกิดการแลกตัวนักโทษขึ้น เมื่อสหรัฐฯ ยอมปล่อยตัว วิกเตอร์ บูต เจ้าของฉายา พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย ที่ถูกทางการไทยจับกุมตัวเมื่อปี 2008 และส่งตัวมาจำคุกอยู่ที่สหรัฐฯ
สุดท้ายเธอได้ก้าวเท้าลงที่สนามบินในซาน อันโตนิโอ และเดินทางต่อไปยังค่ายทหารแซม ฮิวสตัน เพื่อตรวจสุขภาพและให้คำปรีกษาด้านสภาพจิตใจ
หลังจากที่เธอได้ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือให้เธอได้กลับประเทศ ตั้งแต่ประธานาธิบดีจนถึงทีมงานทุกฝ่าย ไกรเนอร์ยืนยันว่าจะกลับมาลงแข่งขันบาสเกตบอลต่อไป
6. Record Breaker เอเลียด คิปโชเก คว้าแชมป์เบอร์ลิน มาราธอน พร้อมสร้างสถิติโลกใหม่อีกครั้ง
วันที่ 25 กันยายน เป็นวันที่แฟนนักวิ่งทั่วโลกเกือบได้เห็นการทำลายกำแพงการวิ่งระยะมาราธอนในการแข่งขันระดับโลกด้วยเวลาที่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้สำเร็จ เมื่อ เอเลียด คิปโชเก นักวิ่งชาวเคนยาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักวิ่งมาราธอนที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ลงแข่งขันเบอร์ลิน มาราธอน 2022
โดยก่อนรายการนี้ คิปโชเกได้สร้างประวัติศาสตร์ทำลายกำแพงวิ่งมาราธอนภายในเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมงสำเร็จไปแล้วในโครงการ INEOS 1:59 ที่ออสเตรีย เมื่อปี 2019 โดยทำเวลาในครั้งนั้นได้ 1.59.40 ชั่วโมง แต่ในโครงการนั้นมีการสลับตัวเพซเซอร์ระหว่างวิ่ง จึงไม่นับว่าเป็นการทำลายสถิติโลก
แต่มาในรายการระดับเมเจอร์ที่เบอร์ลินครั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกของระยะมาราธอน คิปโชเกสามารถวิ่งทำเวลาได้ดีพอที่จะจบการแข่งขันในเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้ ทำให้ทั่วโลกเฝ้าติดตามว่าวันนี้จะได้เห็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการวิ่งอีกหรือไม่
สุดท้ายแม้ว่าคิปโชเกจะทำลายสถิติวิ่งมาราธอน หรือระยะประมาณ 42.195 กิโลเมตร ภายในเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมงไม่ได้ แต่เขาก็สามารถจบการแข่งขันด้วยเวลา 2.01.09 ชั่วโมง สร้างสถิติโลกระยะมาราธอนใหม่อีกครั้ง และก้าวเข้าใกล้เวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไปอีก
ในปี 2023 คิปโชเกยังได้ประกาศลงแข่งขันบอสตัน มาราธอน การแข่งขันมาราธอนระดับเมเจอร์ที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งน่าสนใจว่าในปีหน้านี้ คิปโชเกจะสร้างประวัติศาสตร์อะไรให้กับวงการวิ่ง จากมนุษย์ที่มีความเชื่อว่า No Human is Limited
7. World No.1 โปรจีน-อาฒยา ฐิติกุล โปรกอล์ฟสาวไทยคนที่ 2 ที่ก้าวขึ้นเป็นนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลก
วันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันที่โปรจีน-อาฒยา ฐิติกุล โปรกอล์ฟหญิงไทยวัย 19 ปี ก้าวขึ้นเป็นนักกอล์ฟหญิงมือหนึ่งของโลกคนที่ 2 ต่อจาก โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล ที่เคยทำได้เมื่อปี 2017
โดยการก้าวขึ้นเป็นมือหนึ่งของโลกครั้งนี้ ทำให้โปรจีนกลายเป็นมือหนึ่งของโลกคนที่ 2 ที่ก้าวขึ้นอันดับหนึ่งในวัยไม่ถึง 20 ปี ด้วยอายุเพียง 19 ปี 8 เดือน ต่อจาก ลิเดีย โค โปรกอล์ฟจากนิวซีแลนด์ ที่เคยทำไว้เมื่อปี 2015 ด้วยอายุ 17 ปี 9 เดือน
สำหรับผลงานในปีนี้ของโปรจีน เธอคว้าแชมป์ได้ 2 รายการคือ JTBC Classic และ NW Arkansas Championship รวมถึงจบภายใน 10 อันดับแรกได้อีก 12 รายการ แม้ว่าจะเพิ่งขึ้นมาเล่นในทัวร์เป็นปีแรก
8. New Generation วอลเลย์บอลสาวไทยกับผลงานดีที่สุดในศึก VNL
ศึก Volleyball Nations League หรือ VNL 2022 คือครั้งแรกที่วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันพร้อมกับนักกีฬาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรุ่นต่อจากยุค 7 เซียนอย่างเป็นทางการ
เนื่องจากเมื่อปี 2021 ที่วางแผนจะส่งชุดนี้ไปแข่งขัน แต่เกิดการติดโควิดภายในแคมป์ทีมชาติ ทำให้ต้องส่งชุด 7 เซียนไปแข่งขัน และได้รับพิธีการอำลาสนามอย่างเป็นทางการในการแข่งขัน
แต่มาในปีนี้เจนใหม่ของวอลเลย์บอลสาวไทยสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจอีกครั้ง ด้วยการผ่านเข้ารอบลึกที่สุดในรายการนี้ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย พร้อมเอาชนะทีมอย่างจีนและเซอร์เบียได้ในสัปดาห์แรก
ในปี 2023 ยังมีข่าวดีเมื่อไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน VNL สัปดาห์ที่ 3 ช่วงเดือนมิถุนายน ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้
นอกจากนี้ปี 2023 ทุกการแข่งขันของวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย มีส่วนสำคัญในการเก็บคะแนนเพื่อไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส