วันนี้ (30 พฤศจิกายน) เวลา 09.30 น. ภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้มี 8 จังหวัดได้รับผลกระทบ (ข้อมูล ณ เวลา 06.00 น.) ได้แก่ นครศรีธรรมราช, พัทลุง, ตรัง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส รวม 78 อำเภอ 515 ตำบล 3,552 หมู่บ้าน พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ 553,921 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 9 ราย
ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานเข้าให้การช่วยเหลือประสบภัยอย่างเร่งด่วน ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยศูนย์ ปภ. เขต 12 สงขลา ร่วมกับสำนักงาน ปภ. ของจังหวัดที่ประสบภัย ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยทั้งรถขนย้ายผู้ประสบภัยยกสูง เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ รถประกอบอาหาร เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำ เรือท้องแบน เครื่องยนต์เรือพร้อมอุปกรณ์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รวม 486 หน่วย เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยขณะนี้ทีม ปภ. กระจายกำลังดูแลประชาชนในจังหวัดสตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส เป็นการเร่งด่วน
เพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ ปภ. ให้สามารถดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ตนสั่งระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัยพร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ ปภ.เขต 9 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี, เขต 3 ปราจีนบุรี, เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์, เขต 8 กำแพงเพชร, เขต 9 พิษณุโลก, เขต 11 สุราษฎร์ธานี, เขต 16 ชัยนาท, เขต 17 จันทบุรี และเขต 18 ภูเก็ต รวมเครื่องจักรกลสาธารณภัยที่สนับสนุนเพิ่มเติมลงไปช่วยภาคใต้ ทั้งเรือท้องแบน รถขนย้ายผู้ประสบภัย เครื่องสูบน้ำ รวมอีก 169 รายการ เจ้าหน้าที่ 67 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น.) ซึ่งทีมเสริมของ ปภ. ขณะนี้เริ่มเข้าทำงานในพื้นที่แล้ว
ภาสกรกล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลพี่น้องชาวใต้ที่ประสบอุทกภัย ปภ. ศูนย์ ปภ.เขต สำนักงาน ปภ.จังหวัด พร้อมด้วยจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องมือลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง รวมถึงขณะนี้ 4 จังหวัดเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวและจุดอพยพรวม 200 แห่ง โดยที่นราธิวาส 79 แห่ง สงขลา 16 แห่ง ยะลา 43 แห่ง และปัตตานี 62 แห่ง
ทั้งนี้ ยังเปิดศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรักจำนวน 2 แห่งในจังหวัดนราธิวาสและปัตตานี ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ ปภ. ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความพร้อมด้านความเป็นอยู่ อาหาร และมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ คอยดูแลด้านสุขภาพอนามัย ขณะนี้มีประชาชนอพยพมาเข้าพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้งหมดจำนวน 13,029 คน
นอกจากนี้ ปภ. ยังร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่จัดอาหารปรุงสุกแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยแล้ว 148,896 กล่อง น้ำดื่มสะอาด 99,399 ขวด และถุงยังชีพ 46,316 ชุด รวมถึงสนับสนุนรถประกอบอาหารของ ปภ. ร่วมประกอบอาหารแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมรวม 10 จุด ที่ปัตตานี 1 จุด ยะลา 4 จุด สงขลา 2 จุด และนราธิวาส 3 จุด ซึ่ง ปภ. จะร่วมกับทุกหน่วยงานดูแลพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีจังหวัดที่ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) แล้ว จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และชุมพร รวม 51 อำเภอ 346 ตำบล 2,163 หมู่บ้าน/ชุมชน และเมื่อวานนี้ (29 พฤศจิกายน) กรมบัญชีกลางอนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการให้กับ 6 จังหวัดภาคใต้ที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ได้แก่ สงขลา, นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา, สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เพิ่มเติมแล้วจังหวัดละ 50 ล้านบาท จาก 20 ล้านบาท รวมเป็น 70 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นงบประมาณในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสำหรับใช้ในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย และให้การปฏิบัติภารกิจดูแลพี่น้องประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ โดย ปภ. กำชับให้จังหวัดที่ได้รับการขยายวงเงินทดรองราชการฯ ใช้จ่ายงบประมาณโดยยึดระเบียบกระทรวงการคลังฯ เป็นหลัก มุ่งบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า ให้การช่วยเหลือสอดคล้องและเพียงพอต่อความต้องการของผู้ประสบภัย