วันนี้ (29 พฤศจิกายน) THE STANDARD รวบรวมข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เริ่มทวีความรุนแรง เกิดน้ำท่วมในทุกอำเภอของทุกจังหวัด ส่งผลให้การสัญจรถูกตัดขาด และสร้างความเดือดร้อนให้กับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า
- จังหวัดปัตตานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 12 อำเภอ รวม 111 ตำบล 597 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 37,295 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย
- จังหวัดยะลา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ รวม 58 ตำบล 344 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,830 ครัวเรือน เขตเทศบาลนครยะลามีน้ำท่วมแล้วมากกว่า 70% ของพื้นที่ และฝนยังคงตกหนักต่อเนื่อง
- จังหวัดนราธิวาส เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ รวม 77 ตำบล 553 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 66,374 ครัวเรือน ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ในภาพรวมน้ำยังสูงขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะอำเภอสุไหงโก-ลก
ขณะเดียวกันกรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม สรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวงประจำวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 พบว่าทางหลวงถูกน้ำท่วม โดยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย
จังหวัดปัตตานี 6 แห่ง
- ทล.43 ปาแด-มะพร้าวต้นเดียว ช่วง กม. ที่ 76+500 – 77+800 และ 87+100 – 88+900 อำเภอหนองจิก ระดับน้ำ 50 ซม.
- ทล.43 ปาแด-มะพร้าวต้นเดียว ช่วง กม. ที่ 91+000 – 92+000 อำเภอหนองจิก ระดับน้ำ 40 ซม.
- ทล.418 งาแม่-ยุโป ช่วง กม. ที่ 16+800 – 17+800 และ 19+800 – 20+800 อำเภอแม่ลาน ระดับน้ำ 40 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.401 แทน
- ทล.4060 สายบุรี-กะรุบี ช่วง กม. ที่ 14+380 – 14+390 อำเภอกะพ้อ ผิวทางทรุดตัวใช้ทางเลี่ยง ปน.2026 เพื่อยังไป ทล.4060 แทน
- ทล.4075 ตอหลัง-บ้านนอก ช่วง กม. ที่ 3+500 – 4+200 อำเภอยะหริ่ง ระดับน้ำ 40 ซม.
- ทล.4355 ทางเข้ารามโกมุทช่วง กม. ที่ 0+000 – 0+251 อำเภอเมืองปัตตานี ระดับน้ำ 40 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.4356 ตอนทางเข้านาเกลือ
จังหวัดนราธิวาส 11 แห่ง
- ทล.42 สะปอม-ปาเสมัส ช่วง กม. ที่ 254+800 – 256+300 อำเภอสุไหงโก-ลก ระดับน้ำ 100 ซม. ใช้ทางเลี่ยง นธ.4012
- ทล.42 จุดผ่านแดนถาวรสุไหงโก-ลก (เขตแดนไทย-มาเลเซีย) ช่วง กม. ที่ 258+865 – 259+200 อำเภอสุไหงโก-ลก ระดับน้ำ 35 ซม.
- ทล.4056 เขากง-โคกสุมุ ช่วง กม. ที่ 0+000 – 6+600 อำเภอเมืองนราธิวาส ระดับน้ำ 40 ซม.
- ทล.4057 สุไหงโก-ลก – บูเก๊ะตา (เขตแดนไทย-มาเลเซีย) ช่วง กม. ที่ 6+000 – 9+000 อำเภอแว้ง ระดับน้ำ 40 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.4193
- ทล.4057 สุไหงโก-ลก – บูเก๊ะตา (เขตแดนไทย-มาเลเซีย) ช่วง กม. ที่ 12+400 – 13+200 อำเภอแว้ง ระดับน้ำ 100 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.4193
- ทล.4060 ตะโล๊ะหะลอ-ศรีสาคร ช่วง กม. ที่ 43+365 – 43+700 อำเภอรือเสาะ ระดับน้ำ 80 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.4058 และ นธ.4006
- ทล.4060 ตะโล๊ะหะลอ-ศรีสาคร ช่วง กม. ที่ 49+700 – 49+800 อำเภอศรีสาคร ระดับน้ำ 70 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.4058 และ นธ.4006
- ทล.4084 นราธิวาส-สะปอม ช่วง กม. ที่ 11+000 – 11+200 อำเภอเมืองนราธิวาส ระดับน้ำ 40 ซม. ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น
- ทล.4107 มะรือโบ-ตันหยงมัส ช่วง กม. ที่ 7+700 – 10+000 อำเภอระแงะ ระดับน้ำ 45 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.4055
- ทล.4168 ต้นไทร-ปะลุกาสาเมาะ ช่วง กม. ที่ 0+000 – 0+400 อำเภอบาเจาะ ระดับน้ำ 50 ซม.
- ทล.4271 คอลอกาเว-ไอร์ซือเร๊ะ ช่วง กม. ที่ 12+400 – 12+550 อำเภอศรีสาคร ระดับน้ำ 50 ซม. ใช้ทางเลี่ยง นธ.4006 และ 4058
จังหวัดยะลา 5 แห่ง
- ทล.409 ป่าพ้อ-ท่าสาป ช่วง กม. ที่ 19+300 – 20+500 ระดับน้ำ 40 ซม.
- ทล.409 ป่าพ้อ-ท่าสาป ช่วง กม. ที่ 22+800 – 23+000 อำเภอเมืองยะลา ระดับน้ำ 40 ซม.
- ทล.409 ป่าพ้อ-ท่าสาป ช่วง กม. ที่ 30+600 – 31+900 อำเภอเมืองยะลา ระดับน้ำ 80 ซม.
- ทล.4077 ยะหา-บาจุ ช่วง กม. ที่ 0+300 – 0+500 อำเภอยะหา ระดับน้ำ 60 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.410
- ทล.4272 ยือนัง-คลองชิง ช่วง กม. ที่ 0+230 – 0+300 อำเภอกาบัง ระดับน้ำ 30 ซม. ใช้ทางเลี่ยงกรมทางหลวงชนบท (ทช.)
นอกจากนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายอากาศทั่วไปในช่วงวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้ โดยระบุว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศมาเลเซียจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนกลางและตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่
ในช่วงวันที่ 1-5 ธันวาคมนี้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนกลางและตอนล่างมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
ภาพ: กรมทางหลวง