×

สรุปมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

02.12.2025
  • LOADING...
สรุปมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย ภาคใต้

สรุปมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ทั้ง 4 ด้านใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น มาตรการลดภาระหนี้ มาตรการเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนและภาคธุรกิจ มาตรการลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ และมาตรการด้านอื่นๆ ที่จะทำให้ผู้ประสบภัยกลับมาเข้มแข็งดังเดิม

 

วานนี้ (1 ธันวาคม) ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2568 ซึ่งมีอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม

 

ทั้งนี้ ดร.เอกนิติระบุว่า ได้เดินทางลงพื้นที่ร่วมกับสถาบันการเงิน สมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินรัฐ ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และได้มีการรับฟังความเห็นของคนในพื้นที่ ทั้งภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน ซึ่งทำให้ได้เห็นสภาพจริงของความลำบากที่ประชาชนต้องเผชิญ

 

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงตั้งเป้าออกมาตรการเยียวยาหลังน้ำลด เพื่อช่วยให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตให้เป็นปกติได้โดยเร็วที่สุด ผ่านการบูรณาการความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน

 

โดยรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ แบ่งออกเป็น 4 ด้านใหญ่ ประกอบด้วย 1.) มาตรการลดภาระหนี้ 2.) เพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนและภาคธุรกิจ 3.) ลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ 4.) ด้านอื่นๆ ที่จะทำให้ผู้ประสบภัยกลับมาเข้มแข็งดังเดิม

 

มาตรการลดภาระหนี้สิน

 

1) พักต้น พักดอก: ช่วยเหลือโดยการพักชำระหนี้ พักชำระเงินต้นและยกเว้นดอกเบี้ย ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย เป็นระยะเวลา 12 เดือน ระหว่างพักชำระหนี้ก็ ดอกเบี้ย 0% แล้วธนาคารแห่งประเทศไทยก็ผ่อนเกณฑ์ให้โดยไม่ต้องเป็น NPLs จะได้ไม่ต้องพะวงมาจ่ายหนี้ จ่ายต้น จ่ายดอก

 

2) สินเชื่อเยียวยา: ลูกหนี้เดิม ภายใต้วงเงินกู้เดิม จะสามารถกู้เพิ่มได้รายละไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ให้ประชาชนไปแจ้งกับธนาคารต่างๆ ได้เลย วงเงินเหล่านี้จะสามารถอนุมัติได้โดยเร็ว มีสินเชื่อเข้ามาเยียวยาโดยเร็ว ฟื้นฟู ยังชีพ

 

3) สินเชื่อฟื้นฟู: ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ไม่เกิน 1 ล้านบาท สถาบันการเงินของรัฐ จะเข้ามาดูแลการฟื้นฟูอาชีพ

 

ทั้งหมดนี้ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย จะไปออกแบบมาตรการต่างๆ ในลักษณะของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารรัฐมีลักษณะใกล้เคียงกัน

 

นอกจากนี้ ในส่วนของ ผู้ประกอบการ SME ทางรัฐบาลจะมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ซึ่งจะมี บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ช่วยค้ำประกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถประกอบธุรกิจได้ โดยจะนำรูปแบบสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำใน 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นต้นแบบ

 

มาตรการ เพิ่มเงินในกระเป๋า

 

1) เงินเยียวยา 9,000 บาท: จะอนุมัติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 2 ธันวาคม และจะเร่งเบิกจ่ายให้ประชาชนโดยเร็ว ครัวเรือนละ 9,000 บาท ซึ่งดร.เอกนิติระบุว่า ปัจจุบัน กระทรวงมหาดไทยได้เตรียมระบบพร้อมเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ประชาชนมีเงินสดในมือโดยเร็ว

 

2) ขยายวงเงินทดรองราชการ: ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัด กระทรวงคลังจะขยายวงเงินทดรองราชการ เพื่อเอามาใช้จ่ายต่างๆ จังหวัดละ 100 ล้านบาท รวมถึงผ่อนปรนเกณฑ์ และระเบียบในการเบิกจ่ายสำหรับกรณีฉุกเฉิน เพื่อช่วยประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดครัว จัดอาหาร เพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว

 

3) ชดเชยสินไหมประกัน:

  • ที่อยู่อาศัย กรมธรรม์ประกันภัย จะจ่ายค่าสินไหมทดแทน ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ไม่เกิน 20,000 บาท
  • ร้านค้า ค่าสินไหมทดแทนผู้มีประกัน 30,000 บาท
  • รถยนต์ สามารถเคลมเร็วได้ โดยการถ่ายรูปให้เห็นทะเบียน ระดับน้ำ เพื่อให้ประชาชนสามารถเคลมรถยนต์ได้ทันที ทั้งนี้ ทางคปภ. ได้ประสานบริษัทประกันทั้งหมดเพื่อบูรณาการให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วแล้ว

 

4) ผู้ประกอบการ: กระทรวงแรงงานได้พบกับผู้ประกอบการ ซึ่งต้องการช่วยแรงงาน แต่ผู้ประกอบการไม่มีรายได้ ฉะนั้น รัฐบาลจึงขยายเวลาการนำส่งเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติ

 

5) ลูกจ้าง: ลูกจ้างจะได้รับการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน และไม่สามารถทำงานได้ 50% ของค่าจ้าง นานสูงสุดไม่เกิน 180 วัน

 

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานจะมีสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ ส่งเสริมสินเชื่อเพื่อการจ้างงาน สำหรับกิจการที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน ให้สามารถกู้ได้ไม่เกิน 15 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจ้างแรงงานต่อได้

 

มาตรการลดค่าใช้จ่าย

 

1) ลดภาษี ค่าธรรมเนียม: ดร.เอกนิติ ระบุว่าจะมีการประสานกับกระทรวงมหาดไทยต่อในพื้นที่ที่ประสบภัย ตามความต้องการของผู้ประกอบการในพื้นที่

  • ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับซ่อมแซมทรัพย์สิน ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  • ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับซ่อมแซมรถยนต์ ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท
  • สำหรับผู้ประกอบการ จะหักค่าใช้จ่ายซ่อมแซมทรัพย์สินได้ 2 เท่า สำหรับผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัย
  • ผู้ที่บริจาคช่วยผู้ประสบภัย องค์กรสาธารณะกุศลต่างๆ ก็ลดหย่อนภาษีได้

 

2) โครงการธงฟ้า: จัดทำโดยกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหาสินค้าราคาถูก ลดต้นทุนผู้ประกอบการ และภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่

 

มาตรการถอดบทเรียน

 

ดร.เอกนิติ ระบุว่าจะมีการจัดตั้งคณะถอดบทเรียน โดยมี บวรศักดิ์ อุวรรณโน เป็นประธาน เพื่อแก้ปัญหาระยะสั้น และเตรียมความพร้อมในระยะยาว

 

นอกจากนี้ ดร.เอกนิติยังระบุอีกว่า ทางกระทรวงต่างประเทศ จะขอความช่วยเหลือกับประเทศที่ประสบอุทกภัย เช่น ญี่ปุ่น เพื่อวางระบบในการดูแลอุทกภัย ซึ่งจะสามารถเอาบทเรียนมาแก้ปัญหาได้ทั้งระยะสั้น และระยะยาว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบเดิมอีก

 

ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการอีกว่า กระทรวงท่องเที่ยวจะเตรียมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวและการจัดสัมมนาหลังการฟื้นฟู โดยเมื่อเช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ประชุมมอบนโยบายให้หน่วยราชการต่างๆ ให้หน่วยงานต่างๆ จัดสัมมนาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ประสบภัย และได้รับการฟื้นฟูแล้ว

 

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเยียวยา ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งเป็นการบูรณาการทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยทางหอการค้า สมาคมอุตสาหกรรม และสมาคมธนาคารไทย ได้ร่วมมือกัน แล้วออกมาเป็นมาตรการ ซึ่งทุกคนจะสามารถช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการให้กลับมามีชีวิตได้ตามปกติ และเข้มแข็งขึ้น

 

พาณิชย์ดูแลค่าใช้จ่าย และลดภาระของประชาชน

 

ศุภจี รัฐมนตรีพาณิชย์ กล่าวว่า หน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์​ คือการทำให้แน่ใจว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จะมีสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ขาดแคลน และมีราคาต่ำ ซึ่งแบ่งการช่วยเหลือออกเป็น 3 ระยะ

 

ระยะแรก ทำทันที ซึ่งศุภจีระบุว่าได้ทำไปแล้วในส่วนนี้ และมีการทำต่อเนื่องจนปัจจุบัน เช่น การส่งสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าวัตถุดิบ ประกอบด้วย ไข่ไก่ ข้าวสาร อาหารต่างๆ ไปโรงครัว โดยร่วมมือกับเอกชนและห้างต่างๆ รวมถึงส่งเงินลงไปช่วยด้วย นอกเหนือไปจากการควบคุมราคาสินค้า และป้องกันการกักตุนสินค้า

 

ระยะสอง เยียวยา คือการทำให้ประชาชนเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน ยานพาหนะ ไฟฟ้า โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานไปยังห้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กซี โลตัส แมคโคร รวมถึงห้างเฉพาะกิจ โฮมโปร ดูโฮม เมกะโฮม ไทยวัสดุ โกลบอลเฮาส์ ซึ่งทั้งหมดนี้ จะร่วมกันลดราคาสินค้าสูงสุด 80%

 

นอกจากนี้ ยังมีการช่วยเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ในอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำคัญ เช่น เบรกเกอร์ สายไฟ หัวเทียน เพื่อช่วยการเดินทางสัญจร และได้มีความร่วมมือกับ SCG ในการนำส่งอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน และช่าง ลงพื้นที่เท่าที่ช่วยได้

 

ส่วนที่กำลังดูความพร้อม คือ มหกรรมธงฟ้า ซึ่งมีลักษณะพิเศษผ่านการจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ (Mobile Unit) เพราะชาวบ้านบางจุดอาจไม่สะดวกมาสถานที่จัดแสดงสินค้าธงฟ้า

 

ส่งแฟรนไชส์สร้างอาชีพ สร้างรายได้

 

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะประสานกระทรวงคลัง และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือค่าแฟรนไชส์บางส่วน เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างอาชีพ สร้างรายได้ แก่ผู้คนที่ไม่สามารถทำกิจกรรมอะไรได้

 

ที่สำคัญกว่านั้น คือการเสริมสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุน โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ทำงานร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) (SME D BANK) ช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้าถึงแหล่งทุน ผ่านการช่วยสนับสนุน การขอใบรับรอง ขอใบจดทะเบียนบริษัท และขอใบอนุญาต ให้เร็ว โดยพาณิชย์จังหวัดจะทำงานร่วมกับพาณิชย์ส่วนกลาง ในการให้ความสะดวกสบายกับผู้ประกอบกิจการทั้งหลาย ในการฟื้นฟูการค้าให้กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising