วันนี้ (28 พฤศจิกายน) เวลา 15.10 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) พร้อมด้วย สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัชดา ธนาดิเรก ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย แถลงข่าวอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ประจำวันให้ครบถ้วนเพื่อนำไปสู่ประชาชน
สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษก ศูนย์ศป.กฉ. เปิดเผยว่า การดำเนินงานถือว่าประสบความสำเร็จในระดับสูง เช่น การร้องขอให้ส่วนหน้าเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่อาจตกค้าง จำนวน 1,934 เคส สามารถช่วยได้ 1,734 เคส โดยสาเหตุที่ไม่ครบ 100% เนื่องจากบางกรณีมีการย้ายออกไปก่อน และบางกรณีเห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้นจึงไม่มีความประสงค์ย้ายไปยังศูนย์อพยพ
ภาพรวมการดูแลในศูนย์พักพิง มีผู้เข้าพักสะสม 14,160 ราย และยังสามารถรองรับได้อีก 20,840 ราย ส่วนการจัดทำอาหารในศูนย์พักพิงและแจกจ่ายให้ประชาชนที่ยังตกค้างในพื้นที่ ขณะนี้สามารถผลิตได้ 92,320 ชุดต่อวัน และมีการเพิ่มกำลังการผลิตในวันนี้
สิริพงศ์ เปิดเผยถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ โดยระบุว่า จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข มีผู้เสียชีวิตสะสม 145 คน แบ่งเป็น จังหวัดนครศรีธรรมราช 9 คน, จังหวัดพัทลุง 4 คน, จังหวัดสงขลา 110 คน, จังหวัดตรัง 2 คน, จังหวัดสตูล 5 คน, จังหวัดปัตตานี 6 คน, จังหวัดยะลา 5 คน และจังหวัดนราธิวาส 4 คน
ทั้งนี้ ตัวเลขที่เกิดหลังเวลา 15.00 น. ของวันนี้ ยังไม่ถือเป็นยอดทางการ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้ผ่านการบูรณาการระหว่างตำรวจ นิติเวช และกระทรวงสาธารณสุขแล้วเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มีการแยกตัวเลขผู้เสียชีวิตในการแถลงวันนี้ แต่รวมยอดเพื่อการเยียวยาเงิน 2 ล้านบาท
สิริพงศ์ชี้แจงว่า ได้สอบถามทางนิติเวชแล้ว จะมี 2 กรณี คือ ผู้เสียชีวิตที่ทราบแน่ชัดในช่วงน้ำท่วม ผู้เสียชีวิตก่อนเกิดเหตุน้ำท่วม แต่ตกค้างอยู่ในระบบข้อมูล ซึ่งจะต้องแยกออกอย่างชัดเจน โดยผู้เสียชีวิตก่อนน้ำท่วมจะต้องรอการยืนยันจากญาติ ส่วนที่เหลือจะได้รับสิทธิการเยียวยาเช่นเดียวกัน กรณีผู้เสียชีวิตที่มีการแถลงเมื่อวานนี้ อาจได้รับเงินเยียวยาทั้งหมด
ภราดร กล่าวเสริมว่า กรณีผู้เสียชีวิตที่อยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วม แต่มีบางส่วนเป็นผู้ที่เสียชีวิตก่อนเกิดเหตุ ซึ่งทั้งหมดจำเป็นต้องย้ายไปที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โดยโรงพยาบาลจะมีข้อมูลเพื่อแยกแสดงให้ชัดเจน ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้บูรณาการร่วมกันเพื่อให้ยอดผู้เสียชีวิตตรงกันตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
เมื่อถามถึงกรณีรัฐบาลจะเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละ 2 ล้านบาท รัฐบาลมีงบประมาณเพียงใช่หรือไม่ ภราดรกล่าวว่า เป็นเรื่องรัฐบาลที่จะต้องบริหารจัดการ โดยเบื้องต้นมีงบประมาณจากกองทุนของสำนักนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบกลางเพิ่มเติม หากงบดังกล่าวไม่เพียงพอ
เมื่อถามว่า นอกเหนือจากเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท จะมีเพิ่มเติมหรือไม่ สิริพงศ์กล่าวว่า มีแน่นอน โดยหลักเกณฑ์การดูแลเพิ่มเติม รัฐมนตรีได้กำหนดนโยบายไว้แล้ว และนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ประกาศด้วยตนเองที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
สิริพงศ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันนี้อยากขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนว่า ประเด็นมีทั้งเนื้อหาสาระ และสีสัน จึงขอให้แยกออกจากกัน และช่วยนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้ครบถ้วน เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง
ขณะที่ รัชดา ธนาดิเรก โฆษก ศป.กฉ. เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความพร้อมในการเริ่มต้นการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อีกทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในที่พักอาศัย และศูนย์พักพิงชั่วคราว ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว เนื่องจากสถานการณ์น้ำได้ลดความรุนแรงลง พร้อมเปิดเผยว่า รัฐบาลยกเว้นค่าธรรมเนียมสนามบินให้กับบริษัทการบินเอกชน ที่ร่วมกันใช้อากาศยานบรรทุกสิ่งของอุปโภคบริโภค ซึ่งศูนย์ ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ส่วนหน้า ยืนยันว่ายังคงมีการแจกจ่ายอย่างต่อเนื่อง
รัชดา กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้ประสานเครื่องสูบน้ำ 280 เครื่องประจำในพื้นที่หลัก คือ อำเภอหาดใหญ่ อำเภอเมืองสงขลา และจังหวัดชายแดนใต้ สำหรับการสัญจร กระทรวงคมนาคมได้สำรวจความเสียหายของถนน มีความเสียหาย 60 เส้นทาง ไม่สามารถสัญจรได้ และสัญจรได้ตามปกติ 330 เส้นทาง
ขณะที่การขนส่งมวลชน มีการบริการจาก บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) 9 เส้นทางตามปกติแล้ว คือ กรุงเทพฯ ไป สงขลา หาดใหญ่ ยะลา สุไหงโกลก เบตง นาทวี สตูล ด่านนอก ปาดังเบซาร์ และมีสองเส้นทางที่ไม่สามารถให้บริการได้ คือ กรุงเทพฯ-ตรัง-สตูล และ กรุงเทพฯ-ปัตตานี ขณะที่ทางเส้นทางรถไฟ บริการได้แล้วจำนวน 12 จุด และมีอุปสรรคอยู่อีก 27 จุด
นอกจากนี้ ยังเปิดเผยถึงการเร่งฟื้นฟูระบบประปา โดยการประปาส่วนภูมิภาค เร่งดำเนินการติดเครื่องจักรติดตั้งผลิตน้ำ และติดตั้งเครื่องส่งน้ำผลิตน้ำ 16 คันในเวลาเร่งด่วนนี้ ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีความพร้อมในการจ่ายไฟแล้ว แต่อยู่ประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยในพื้นที่ พร้อมเปิดเผยว่าเหลือบ้านเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้จำนวน 160,000 หลังคาเรือน จากเดิม 700,000 หลังคาเรือน
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ประสานมายังรัฐบาล ว่า ผู้ที่ใช้มือถือระบบเติมเงิน จะขยายเวลาใช้งานไปอีก 30 วัน ผู้ที่ใช้ระบบรายเดือนขยายเวลาชำระไปอีกหนึ่งเดือน พร้อมมอบ สิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้โทรศัพท์ในพื้นที่ประสบภัย โทรฟรี 100 นาที และอินเทอร์เน็ตฟรี 10 GB ตั้งแต่ 28 พฤศจิกายนนี้ เป็นเวลา 15 วัน
ขณะที่การจัดการปัญหาขยะ รัชดา ย้ำว่า เป็นแผนการบริหารจัดการอย่างเร่งด่วน ในพื้นที่ที่น้ำลดลงแล้ว มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาด โดยในวันพรุ่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองอีก 2,000 คนเข้าไปร่วมดำเนินทำความสะอาดอีกด้วย
ส่วนกระแสข่าวลือที่พายุโคโตะ จะเข้ามาและส่งผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือดร้อนนั้น รัชดาย้ำว่า ได้รับรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาแล้วว่า พายุดังกล่าว จะเข้ามาทางประเทศเวียดนาม และไม่กระทบกับประเทศไทย
