×

แอฟริกาใต้ทำสถิติติดโควิด-19 รายวันสูง ท่ามกลางการระบาดของไวรัสชนิดใหม่ที่เพิ่งถูกพบในประเทศ

26.12.2020
  • LOADING...
แอฟริกาใต้ทำสถิติติดโควิด-19 รายวันสูง ท่ามกลางการระบาดของไวรัสชนิดใหม่ที่เพิ่งถูกพบในประเทศ

นี่อาจไม่ใช่ปีที่ชาวแอฟริกาใต้คุ้นเคย เมื่อบรรยากาศการฉลองเทศกาลคริสต์มาสถูกกระทบด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชื้อก่อโรคโควิด-19 ชนิดใหม่ ‘501.V2’ ที่ถูกประกาศว่าพบครั้งแรกในประเทศแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันกลายเป็นเชื้อชนิดสำคัญที่ระบาดในประเทศแอฟริกาใต้แซงหน้าเชื้อชนิดดั้งเดิมไปแล้ว

 

จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันที่ 24 ธันวาคมของประเทศแอฟริกาใต้อยู่ที่ 14,305 ราย และยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 968,563 ราย นับเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันที่สูงที่สุด และสูงกว่าการระบาดในรอบก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเฉพาะวันที่ 24 ธันวาคมอยู่ที่ 326 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 25,983 ราย และรักษาหายแล้ว 822,978 ราย

 

สำนักข่าว AP ยังรายงานว่ายอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในห้วง 7 วัน ณ วันที่ 24 ธันวาคม อยู่ที่ 18.5 รายต่อประชากร 1 แสนคน ซึ่งสูงขึ้นมากกว่าเท่าตัวหากเทียบกับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในห้วง 7 วันเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 8.65 รายต่อประชากร 1 แสนคน

 

มีหลายมาตรการที่ถูกนำมาใช้รับมือกับโควิด-19 เช่น การปิดชายหาดสาธารณะขนาดใหญ่หลายแห่ง การบังคับใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ จำกัดการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เหลือเพียง 4 วันต่อสัปดาห์ การบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวช่วงกลางคืนตั้งแต่เวลา 23.00-04.00 น. ฯลฯ ผู้เชี่ยวชาญบางรายแสดงความเห็นต่อ AP ว่าควรมีการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นอีกจากการแพร่ระบาดที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งส่งผลให้โรงพยาบาลต้องรองรับผู้ป่วยมากขึ้น

 

ซวีลิม คีเซอร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของแอฟริกาใต้ ยังเผยแพร่คลิปอวยพรวันคริสต์มาสซึ่งเนื้อหาส่วนหนึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ และรักษาระยะห่างระหว่างกัน แต่อีกด้านหนึ่งเขาออกแถลงการณ์ตอบโต้ท่าทีของ แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ซึ่งออกมาแสดงความกังวลเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมว่าไวรัสก่อโรคโควิด-19 ชนิด 501.V2 ที่พบในแอฟริกาใต้จะมีความสามารถในการแพร่ระบาดสูงกว่าไวรัสชนิด B.1.1.7 ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในสหราชอาณาจักรขณะนี้ โดยคีเซอร์ระบุว่าคำกล่าวของแฮนค็อกที่สร้างการรับรู้ว่าไวรัสชนิดที่พบในแอฟริกาใต้จะเป็นปัจจัยสำคัญกับการระบาดรอบสองในสหราชอาณาจักรนั้นไม่ถูกต้อง เพราะปรากฏหลักฐานว่าไวรัสชนิด B.1.1.7 มีการพัฒนาขึ้นมาก่อนไวรัสชนิด 501.V2

 

นอกจากนี้คีเซอร์ยังระบุว่าได้รับคำยืนยันจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านจีโนมว่ายังไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ ว่าไวรัสชนิด 501.V2 ที่พบในแอฟริกาใต้จะมีความสามารถในการแพร่ระบาดสูงกว่าไวรัสชนิด B.1.1.7 ที่พบในสหราชอาณาจักร รวมถึงไม่ปรากฏหลักฐานว่าไวรัสชนิด 501.V2 ที่พบในแอฟริกาใต้จะทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น หรือทำให้อัตราการตายสูงขึ้นหากเทียบกับไวรัสชนิดอื่นๆ ในโลก เขายังแสดงความไม่เห็นด้วยต่อคำสั่งแบนการเดินทางจากแอฟริกาใต้ โดยชี้ว่าความเสี่ยงจากการสั่งแบนการเดินทางอาจมากกว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับ และยังยืนยันว่าเป็นไปได้ที่จะจำกัดการระบาดไปพร้อมๆ กับรักษาการเดินทางระหว่างประเทศเอาไว้

 

ขณะที่หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาลำดับจีโนมของไวรัสชนิด 501.V2 ที่พบในแอฟริกาใต้ก็ยืนยันกับ AFP ว่าพวกเขาจะใช้เวลาตลอดช่วงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาสเพื่อศึกษาเรื่องนี้

 

นอกจากนี้ที่ประเทศไนจีเรียก็มีการค้นพบไวรัสชนิดใหม่เช่นกัน ซึ่งเป็นคนละชนิดกับที่พบในสหราชอาณาจักรและประเทศแอฟริกาใต้ ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไนจีเรียที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดแห่งแอฟริการะบุว่ายังไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่าไวรัสชนิดใหม่ที่พบในไนจีเรียมีส่วนต่อการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นในประเทศดังกล่าว แต่บอกว่าศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดของไนจีเรีย ตลอดจนศูนย์ความเป็นเลิศด้านจีโนมิกส์ของโรคติดเชื้อแห่งแอฟริกาจะศึกษาตัวอย่างของเชื้อไวรัสชนิดใหม่นี้เพิ่มเติมต่อไป

 

ภาพ: Luca Sola / AFP

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X