×

โสภณ เมินคนโจมตี ครม.ปราสาทสายฟ้าคอนเน็กชัน ชี้เลือกเกิดไม่ได้ แต่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าคิดผิด ยืนยันภูมิใจไทยไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ

โดย THE STANDARD TEAM
21.09.2025
  • LOADING...

วันนี้ (21 กันยายน) ที่จังหวัดศรีสะเกษ โสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี และ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกต “ครม.อนุทิน” เป็นปราสาทสายฟ้าคอนเน็กชันว่า ก็มีการหมายถึงว่า เป็นคนบุรีรัมย์ ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย วันนี้พอพูดถึงบุรีรัมย์ จะมีคนอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีอคติก็จะพูดว่า คนบุรีรัมย์จะเข้าไปทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่กลุ่มที่รู้ความจริง เหมือนที่คนบุรีรัมย์รู้ว่า อะไรเป็นอะไร เพราะฉะนั้นต้องดูที่การกระทำ เหมือนตนที่วันนี้ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย แต่กลับถูกตั้งฉายาว่า “โสภณ เขากระโดง” 

 

โสภณ กล่าวอีกว่า ตนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เพราะอยู่บุรีรัมย์ ขอถามว่า ที่ตนมีชื่ออยู่ในครม.ชุดนี้ ก็ต้องไปดูว่า สิ่งที่จะทำในอนาคตนั้นจะเหมือนกับคำปรามาสหรือไม่ ต้องมาพิสูจน์กัน ในสังคมนี้พอพูดเรื่องดีก็ไม่เชื่อ แต่พอพูดเรื่องไม่ดีก็เชื่อไว้ก่อนว่าจะทำแบบนั้น จะทำแบบนี้ จึงเป็นจุดอ่อนของสังคมไทย และการใช้โซเชียลมีเดียที่จริงบ้าง เท็จบ้าง มาบั่นทอนความน่าเชื่อถือของคนที่ไม่รู้ความจริง 

 

“วันนี้ผมก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง และไม่ใช่แค่ผมนะ แต่สส.บุรีรัมย์ นักการเมืองของคนบุรีรัมย์ หรือมีชื่อคนบุรีรัมย์เข้าไปเป็นครม. ต้องพิสูจน์ว่า เราไม่ได้เป็นแบบที่พวกเขาคิด ตรงนี้สำคัญเพราะอนาคตของภูมิใจไทย มันไม่ได้อยู่ที่วันนี้ อนาคตของภูมิใจไทยอยู่ที่ว่า ถ้าเราทำในสิ่งที่ทุกคนคาดผิดหมด พวกผมก็เป็นพระเอก” 

 

โสภณกล่าวว่า เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ และภูมิใจไทยไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ จึงต้องเดินตามครรลองของกฎหมาย เพราะเราหวังว่าจะเป็นพรรคการเมือง ที่เป็นสถาบันการเมือง หากพรรคใดไร้อุดมการณ์ ไม่ยึดในสิ่งที่ถูกต้องก็จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรา และสส.ทุ่มเทมา สิ่งที่ทำมาก็เป็นประโยชน์กับประชาชน 

 

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเตรียม 4 กุมาร จะชำแหละคณะรัฐมนตรี โสภณ บอกว่า ไม่เป็นอะไร ตนไม่ห่วงเรื่องชำแหละ แต่ห่วงว่า เราจะมีเวลาพอที่จะได้พิสูจน์การทำงานบนพื้นฐานความเป็นจริงหรือไม่ เพราะเวลา 4 เดือนที่อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีการทำ MOA และรับปากกับพรรคที่พรรคที่สนับสนุนว่า จะยุบสภาใน 4 เดือน เชื่อว่าทำได้ แต่ในขณะเดียวกันวิกฤตของประเทศบางอย่างรอไม่ได้ และความเป็นรัฐบาลทุกวินาทีต้องทำเพื่อประเทศชาติ ต้องคู่กันไปกับการเดินหน้ายุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญอย่างเป็นรูปธรรม

 

โสภณยังกล่าวถึงภารกิจที่จะรับผิดชอบในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีว่า ตนไม่ถนัดเรื่องเศรษฐกิจ แต่ในเรื่องสังคม การศึกษา และยาเสพติดนั้นถือว่าเป็นงานที่สำคัญ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาของประเทศจริงๆ ปัญหาเศรษฐกิจทุกวันนี้ หากมองให้ดี ก็เพราะคนเราไม่มีคุณภาพ ติดยา เด็กติดยาไม่เรียนหนังสือ ปัญหานี้ต้องแก้ไขเร่งด่วน ซึ่งตนสามารถทำได้แล้ว

 

ในระยะสองปีที่ตนเป็น สส.บุรีรัมย์ ได้เร่งแก้ปัญหายาเสพติดใน 6 อำเภอ ร่วมกับพระและภาคเอกชน และเห็นผลสำเร็จ โดยขอท้าสื่อมวลชนและหน่วยงานราชการไปดูที่อำเภอลำปลายมาศ อำเภอคูเมือง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ฯลฯ ซึ่งมีศูนย์บำบัด ติดตาม แยกผู้ป่วย และตนจะพาสื่อไปชม สิ่งที่ตนอยากเห็นคือการพัฒนาด้านการศึกษาและการแก้ปัญหายาเสพติด

 

โสภณกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 3 ปี เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 ครั้ง และในตอนนั้นต้องยื่นให้ ป.ป.ช. สอบ แต่สุดท้ายผลการสอบก็ยกหมด และไม่ยืนยันว่าตนไม่มีเรื่อง ป.ป.ช. สำหรับใน ครม.นี้ จะมีใครถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบหรือไม่นั้น นายกฯ ได้ตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะท่านมีอนาคตทางการเมืองอยู่ ตนเชื่อว่านายกฯ มีกำแพงพิงที่จะไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า แม้จะเป็นรัฐบาลแค่ 4 เดือน แต่ก็ไม่ควรนำชีวิตการเมืองไปผูกไว้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงภาพลักษณ์ของ ครม.จะกระทบรัฐบาลหรือไม่นั้น โสภณกล่าวว่า ก็ต้องพิสูจน์กัน ในทางการเมือง นักการเมืองที่อยู่วังวนเคยร่วมงานกัน แต่ในส่วนตัว ความผิดต้องตัดสินด้วยกฎหมาย วันนี้ใครถูกกล่าวหาก็ต้องพิสูจน์ตามกระบวนการ แม้แต่นายกฯ เอง หากไม่เชื่อกฎหมายแล้ว เราจะอยู่กันอย่างไร และเชื่อว่าใครทำไว้สมัยนี้ไม่สามารถปิดได้ ใครทำอะไรรู้หมด ส่วนฝ่ายค้านจะทำอะไรก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของเขา และหวังว่าสังคมจะให้ความยุติธรรม

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising