นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 โดยสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ 5 เกิดอุบัติเหตุ 472 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 54 ราย ผู้บาดเจ็บ 494 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ 40.68% ขับรถเร็ว 27.54% ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 78.85% ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง 67.16% บนถนนใน อบต. หรือหมู่บ้าน 37.92% ถนนกรมทางหลวง 36.23% ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. คิดเป็น 32.42% ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป คิดเป็น 23.36% ของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมด
วานนี้ (15 เม.ย.) ได้เรียกตรวจยานพาหนะ 1,092,735 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 235,838 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 64,926 ราย ไม่มีใบขับขี่ 57,452 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (26 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ พิษณุโลก มหาสารคาม อุบลราชธานี (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (27 คน) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (11-15 เม.ย.) เกิดอุบัติเหตุ 2,702 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 297 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,807 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 8 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (104 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ อุดรธานี (14 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (104 คน)
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าวันนี้เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าจะมีปริมาณรถหนาแน่น โดยเฉพาะเส้นทางหลักจากภูมิภาคต่างๆ ที่มุ่งเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานประจำจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก เส้นทางสายรองที่ประชาชนใช้เป็นทางลัดและทางเลี่ยงเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถนนทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง จึงสามารถใช้ความเร็วได้สูง โดยให้เพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารท้ายกระบะ ได้ประสานการเปิดช่องทางพิเศษและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณจุดตัดเส้นทางสายหลักและสายรองที่มีการจราจรหนาแน่น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์