วานนี้ (10 ธันวาคม) รัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม พร้อมด้วย พล.ต. ภูมเดชา พ่วงเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 42 เข้าร่วมการประชุม เพื่อเตรียมการรับมือกรณีฝนอาจตกหนักในระลอกใหม่ รวมถึงหารือเรื่องการปรับลดระดับสถานการณ์เป็นระดับ 2 เพื่อให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเข้ามาดำเนินการต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการประชุม ศูนย์อุตุนิยมวิทยารายงานคาดการณ์สภาพอากาศช่วงกลางเดือนธันวาคม โดยระบุว่าในวันที่ 11-12 ธันวาคม จะได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ส่งผลให้บางพื้นที่อาจมีฝนตกหนัก แต่จังหวัดสงขลาจะมีฝนอยู่ในระดับปานกลาง โดยเฉพาะบริเวณอำเภอระโนด
ส่วนช่วงเฝ้าระวังสำคัญคือวันที่ 14-17 ธันวาคม ซึ่งอาจมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางในพื้นที่อำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และหาดใหญ่ คาดการณ์ปริมาณฝนสะสมราว 50-60 มิลลิเมตร ซึ่งยังสามารถบริหารจัดการได้ ทั้งนี้ สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้นหลังวันที่ 17-18 ธันวาคม โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ที่คาดว่าจะเข้าสู่เขตปลอดภัย
ด้านสถานการณ์น้ำในพื้นที่ยังคงต้องเฝ้าระวังในจุดลุ่มต่ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง รวมถึงผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน โดยจังหวัดสงขลาได้ติดตามระดับน้ำในคลองสายหลักอย่างต่อเนื่อง พบว่าระดับน้ำในคลอง ร.1 ลดลงแล้วประมาณ 1.6 เมตร แสดงให้เห็นถึงการระบายน้ำที่ดีขึ้น พร้อมประเมินว่า หากปริมาณฝนที่ตกลงมาไม่เกิน 250 มิลลิเมตร จังหวัดยังสามารถบริหารจัดการน้ำได้
ขณะเดียวกัน อำเภอระโนดรายงานว่า แม้น้ำลดลงต่อเนื่อง แต่พบปัญหาน้ำเน่าเสียจากการท่วมขังเป็นเวลานาน ทำให้อำเภอจัดซื้อหัวเชื้อ EM แจกจ่ายประชาชนโดยด่วน พร้อมให้สำนักงานสาธารณสุขเข้าดูแลด้านสุขอนามัย ส่วนประชาชนที่เคยอพยพได้ทยอยเดินทางกลับสู่ที่พักแล้ว สะท้อนถึงแนวโน้มสถานการณ์ที่ดีขึ้น
สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมช่วงวันที่ 11-18 ธันวาคม จังหวัดสงขลาได้กำหนดแผนเผชิญเหตุไว้ชัดเจน โดยจะไม่รอให้ระดับน้ำสูงขึ้นก่อน แต่ให้หน่วยงานดำเนินการอพยพกลุ่มเปราะบางออกจากพื้นที่เสี่ยงทันที พร้อมแบ่งพื้นที่รับมือสถานการณ์ออกเป็น 4 เขตปฏิบัติการ และกำหนดโครงสร้างการบัญชาการ 2 ระดับ คือ ระดับอำเภอในช่วงสถานการณ์เริ่มต้น และระดับผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อสถานการณ์ทวีความรุนแรง คาดว่าการปรับลดระดับภัยเข้าสู่ระดับ 2 อาจเกิดขึ้นในวันที่ 14 ธันวาคมนี้
ในช่วงการฟื้นฟูหลังสถานการณ์น้ำลด จังหวัดสงขลาได้เร่งดำเนินการบริหารจัดการขยะและสิ่งปฏิกูลที่ตกค้างในเขตเมืองหาดใหญ่ เพื่อคืนความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับพื้นที่ โดยระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลเข้าดำเนินการขนย้ายขยะไปยังจุดพักรอการกำจัด ณ โรงกำจัดขยะเกาะแต้วอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและจุดสำคัญในเขตเมืองให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในระหว่างวันที่ 22-23 ธันวาคมนี้
ส่วนมาตรการเยียวยา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้เน้นย้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เร่งรัดการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลผู้ลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 9,000 บาทต่อครัวเรือน การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือน ไม่เกิน 49,500 บาท และเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตรายละ 2,000,000 บาท ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน ตามกรอบเวลาที่กำหนด เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยังได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลาเร่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่อหลังน้ำลด โดยเฉพาะ โรคเลปโทสไปโรซิส (โรคฉี่หนู) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน และพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในกลุ่มประชาชนที่มีการลงน้ำหรือสัมผัสน้ำท่วมโดยตรง โดยล่าสุดจังหวัดสงขลารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย และผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีก 1 ราย


