×

“สู้ครั้งนี้ต้องชนะเท่านั้น” สนธินำมวลชนจี้นายกฯ ยื่น 6 ข้อเรียกร้อง ยกเลิก MOU 44 ขีดเส้นตายภายใน 15 วัน

โดย THE STANDARD TEAM
09.12.2024
  • LOADING...

วันนี้ (9 ธันวาคม) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และคณะบุคคล ยื่นหนังสือถึง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีหยุดการปฏิบัติหน้าที่การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิเส้นไหล่ทวีปราชอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (MOU 44) 

 

รวมถึงแถลงการณ์ร่วมระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย กับ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา (JC 44) เนื่องจากมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการในการประกาศทะเลอาณาเขตและเขตทะเลต่อเนื่อง ตลอดจนประกาศเส้นเขตไหล่ทวีป ตามอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 และกฎหมายอื่น รวมทั้งยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และยังไม่มีพระบรมราชโองการประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น จึงต้องถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 

 

พร้อมทั้งยื่น 6 ข้อเรียกร้อง 

 

  1. ขอให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีรักษาไว้ซึ่งเอกราชและอธิปไตยของไทย และแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีป ซึ่งเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาล 

 

  1. ขอให้นายกรัฐมนตรีเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณามีมติให้ส่ง MOU 44 และ JC 44 ต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญไทยหรือไม่ 

 

  1. หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU 44 และ JC 44 ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ให้ยกเลิกการเจรจาตาม MOU 44 และ JC 44 เพื่อปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาทันที 

 

  1. แต่หากศาลวินิจฉัยแล้วว่าไม่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ขอให้ ครม. จัดให้มีการเจรจากับกัมพูชาเพื่อยกเลิก MOU 44 และ JC 44 ทันที โดยให้เจรจากันใหม่ภายใต้การกำหนดขอบเขตเฉพาะพื้นที่พัฒนาร่วมบนพื้นฐาน โดยใช้หลักการของเส้นมัธยะ 

 

  1. ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค หรือ JTC ไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและดำเนินการให้ถูกต้อง 

 

  1. ให้จัดเวทีสาธารณะแก่ประชาชนเรื่อง MOU 44 และ JC 44 โดยให้ความรู้ความเข้าใจที่เป็นกลาง เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศ 

 

ทั้งนี้ ขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณากลับภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ ครม. พิจารณา

 

สนธิกล่าวว่า มีคำถามว่า MOU 44 เกิดขึ้นได้อย่างไร คำตอบคือเกิดขึ้นเพราะ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นนายกรัฐมนตรีในตอนนั้นจับมือกับ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อร่าง MOU 44 ลากเส้นของตัวเองเข้ามากินในพื้นที่ของคนไทย โดยผู้ที่ร่าง MOU 44 คือ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถามว่าทำไมถึงกล้าพอที่จะร่าง เพราะมีเหตุผลว่าสุรเกียรติ์ต้องการให้ทักษิณส่งเสริมให้ตัวเองเข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการสหประชาชาติในตอนนั้น 

 

สนธิกล่าวอีกว่า ประเทศไทยไม่เคยมีพื้นที่ทับซ้อน แต่เรามีนายกรัฐมนตรีทับซ้อน ตนกล้าพูดว่า MOU 44 เป็น MOU ขายชาติ ตนให้เวลารัฐบาลชุดนี้ 15 วัน หลังจากนั้นจะมาติดตามผล ซึ่งขั้นตอนต่อไปตนจะร้องเรียนต่อ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และจะส่งเอกสารให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ทุกคนยืนยันสิทธิของประเทศไทย หาก สส. หรือ สว. คนไหนลงมติเห็นชอบ MOU 44 จะถือว่าอยู่ในขบวนการร่วมกันขายชาติเช่นกัน

 

หากในอนาคตความจริงปรากฏจะทำให้ สส. และ สว. ที่ยกมือติดคุกติดตะรางในฐานะขายชาติ นอกจากนี้ ตนจะยื่นหนังสือร้องเรียนที่กระทรวงการต่างประเทศ เพราะต้องการให้กระทรวงการต่างประเทศ ข้าราชการ โดยเฉพาะกรมสนธิสัญญาและกฎหมายรับทราบว่าหากไม่ปกป้องอาณาเขตไทย ร่างสัญญาใหม่แล้วตกลงทำตาม ท่านก็คือข้าราชการขายชาติเช่นกัน 

 

“ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ ทำตามขั้นตอน ทำจนสุดขั้นตอน สุดซอยแล้วยังไม่รู้เรื่องก็ทะลุซอยไปเลย”

 

สนธิกล่าวอีกว่า ตนเองอายุมากแล้ว นี่คือประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ทำอะไรครั้งนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องชนะเท่านั้น สำหรับแกนนำเก่าๆ ที่พากันพูดว่าไม่มีมวลชนแล้ว วันนี้ผมไม่ได้ปลุกระดมประชาชน แต่ว่าทุกคนที่มาวันนี้มากันด้วยใจ ถ้าถึงเวลาที่จะต้องลงถนนกันก็จะมามากกว่านี้เป็นพันเท่า หมื่นเท่า ถ้าอะไรที่เป็นของเราแล้วมาเอาไปก็ต้องเจอกัน นักการเมืองพรรคเพื่อไทยหากไม่ตกลงผลประโยชน์ จะให้ทะเลาะกันหรือไม่ แต่สำหรับตนเองไม่ได้ทะเลาะกับใคร แค่ต้องการตอกย้ำว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของประเทศไทย เมื่อเป็นของประเทศไทยแล้วจะปล่อยให้คนอื่นเอาไปได้อย่างไร 

 

นอกจากนี้ มีบางคนพูดว่าตนเองเป็นสารตั้งต้นของความวุ่นวาย จึงอยากถามกลับว่าที่ประท้วงในปี 2548 เราประท้วงใครและเรื่องอะไร ซึ่งใช้เวลาต่อสู้กว่า 18 ปี เพื่อพิสูจน์ว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวให้ทักษิณสารภาพผิด และบรรจุลงในราชกิจจานุเบกษาว่าได้คดโกงประเทศชาติอย่างไร ความจริงและประวัติศาสตร์รอมาตั้ง 18 ปี 

 

สนธิกล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอถามนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ตนและพวกทำผิดตรงไหนที่ไม่ยอมส่งต่อดินแดนของเรา สิทธิอาณาเขตของเราให้กับกัมพูชา เพียงเพราะผู้นำกัมพูชาและไทยมีความทับซ้อน บางคนมีข้อตกลงกัน จะแบ่งผลประโยชน์กัน 50:50 วันนี้ถือว่าเราได้แสดงพลังให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นแล้ว พร้อมย้ำถึงเงื่อนไขการลงถนนว่าเป็นไปตามขั้นตอน และจะติดตามผลอีก 15 วัน

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising