วันนี้ (11 ตุลาคม) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ เตรียมย้ายออกว่า หากนับย้อนหลังไปประมาณ 20 วัน ยังไม่ได้มีการพบใคร เพราะไปต่างประเทศ และหลังจากที่กลับมาก็ไม่ได้กลับมาทำงาน เพราะไม่สบาย จึงไม่ได้พูดคุยในเรื่องการเมืองที่มีข่าวออกมา และคิดว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง รวมถึงกรณีที่มี ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐไปร่วมวันเกิดผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองหนึ่ง ที่อาจตั้งข้อสังเกตว่ามีการคิดอะไรที่ไม่เป็นรูปแบบของพรรคการเมืองตามปกติ
สมศักดิ์ย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันภายในพรรค เพราะตนเองยังไม่ได้เจอใครเลยกว่า 20 วันแล้ว
ส่วนจะเรียกคุยกันเป็นรายคนเลยหรือไม่ เพื่อทำความเข้าใจกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์ระส่ำระสายในลักษณะนี้อีก สมศักดิ์กล่าวว่า ใครสนิทกับใครก็ควรที่จะพูดคุยกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าใครคิดจะอยู่หรือไม่อยู่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร สมศักดิ์กล่าวว่า ตนเองดูอยู่ แต่ยังไม่ได้คิดหรือพูดอะไรกับใคร เพราะต้องดูข้อมูลจากหลายฝ่ายว่าแต่ละคนคิดอะไรกันบ้าง แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกินเลย และยืนยันว่ากลุ่มสามมิตรไม่คิดไปไหน ยังอยู่พรรคพลังประชารัฐ
ส่วนความมั่นใจว่าในการเลือกตั้งสมัยหน้าพรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นรัฐบาลใช่หรือไม่ ถึงยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ สมศักด์กล่าวว่า ตนเองมั่นใจว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สามารถควบคุมสถานการณ์และทำงานได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เหตุผลที่มั่นใจเพราะมีเสียงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 เสียง ใช่หรือไม่ สมศักด์กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พล.อ. ประยุทธ์ สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อีก 2 ปี จะทำให้มีปัญหาหรือไม่ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะไปหาเสียงแล้วบอกกับประชาชนว่าอย่างไร สมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้แล้วแต่เลย แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่มีปัญหา แม้มีเวลาแค่ 2 ปี ก็สามารถไปต่อได้ และที่พรรคพลังประชารัฐจะมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมากกว่า 1 คนนั้น จะต้องมีการพูดคุยกัน
ส่วนที่มีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยพร้อมรับกลุ่มสามมิตรกลับเข้าพรรคนั้น สมศักดิ์ย้ำอีกครั้งว่าตนยังไม่ได้เจอใครเลย