วันนี้ (7 มิถุนายน) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ประชุมร่วมกับสภากรุงเทพมหานคร มีมติให้ผู้พ้นโทษมาลอกท่อ โดยรอบแรกเป็นวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ว่า กรมราชทัณฑ์มีความพร้อมที่จะนำผู้ต้องขังที่ได้พ้นโทษที่สามารถออกมาให้บริการได้ ซึ่งมีประมาณ 1,000 คน
โดยมองว่าศักยภาพของผู้ต้องขังที่ทำงานลอกท่อคนหนึ่ง ทำได้ 25 เมตรต่อวัน หากท่อมีความยาว 1 กิโลเมตร ใช้ผู้ต้องขังเพียง 40 คน ประเมินว่า 1 วัน จะสามารถลอกได้ 25 กิโลเมตร ขอให้ทุกฝ่ายอย่าห่วงว่าประสิทธิภาพของผู้ต้องขังจะไม่สามารถทำได้ ยกเว้นมีความน่าเป็นห่วงอยู่ที่การรับตำแหน่งของชัชชาติอยู่ในช่วงปลายงบประมาณของการลอกท่อ เชื่อว่าน่าจะติดขัดในส่วนของการจ้างเหมากับบริษัทเอกชนที่ว่าจ้างไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ปัญหาส่วนอื่นคาดว่าชัชชาติน่าจะสามารถจัดการได้ ซึ่งตามความเข้าใจของตนทราบว่าท่อของ กทม. ยาวประมาณ 6,000 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลา 2 ปีในการลอกท่อ หากปีหน้าจ้างผู้ต้องขังจากกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดก็น่าจะใช้เวลาไม่มาก
สมศักดิ์ย้ำว่า สิ่งไหนที่จำเป็นก็ต้องช่วยกันทำ เพื่อไม่ให้น้ำท่วม กทม. ยอมรับว่าส่วนตัวไม่มีความรู้เรื่องงานบริการด้านนี้ ส่วนเรื่องเงินค่าจ้างจะมอบให้ผู้ต้องขังทั้งหมดหรือไม่นั้น สมศักดิ์ระบุว่า ผู้ต้องขังได้รับอยู่แล้ว การที่ผู้ต้องขังได้ออกมาทำงานข้างนอก เปรียบเสมือนข้าราชการได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ตนมองว่าหลายคนน่าจะแย่งกันสมัคร ดังนั้นต้องคัดคนที่ประพฤติปฏิบัติดี และมีการควบคุมดูแลสูงสุดเรื่องสิทธิมนุษยชน
สมศักดิ์ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างกระทรวงยุติธรรมและ กทม. และเป็นการใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงช่วยเสริมรายได้ให้ผู้ต้องขัง ขอขอบคุณชัชชาติที่ช่วยหางบประมาณในส่วนที่ขาดเข้ามาช่วยเสริม ส่วนกรณีปัญหาที่ผ่านมาเป็นเพราะการจัดซื้อจัดจ้างที่ติดสัญญารัฐต่อรัฐหรือไม่ สมศักดิ์ตอบว่า ไม่ได้ติดอะไร โดยในส่วนของกรมราชทัณฑ์ได้สิทธิพิเศษกับการทำงานภาครัฐและราคาไม่แพงอยู่แล้ว