วันนี้ (8 กุมภาพันธ์) สมเกียรติ กอไพศาล ผู้ต้องหาคดีเนื้อสัตว์เถื่อนกว่า 10,000 ตู้ (ชิ้นส่วนหมูแช่แข็ง ชิ้นส่วนวัวแช่แข็ง และตีนไก่สวมสิทธิ์) ที่ลักลอบนำเข้าราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย พร้อมด้วยทนายความ เข้ามาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังจากที่ได้รับการประกันตัวชั่วคราวไปในครั้งก่อน
โดยวันนี้สมเกียรตินำเอกสารและหลักฐานเพิ่มเติมมามอบให้พนักงานสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 40 นาที
สมเกียรติกล่าวว่า เอกสารที่นำมาแสดงวันนี้ส่วนใหญ่เป็นเอกสารที่แสดงชัดเจนว่าไม่มีชื่อของตนไปเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในบริษัทใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี
ตนยืนยันว่าไม่มีชื่อไปร่วมเกี่ยวข้องในบริษัทใดๆ แม้แต่แห่งเดียว โดยเฉพาะในธุรกิจขายส่งตีนไก่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ตนไม่ได้ข้องเกี่ยวเลย ส่วนสาเหตุที่ทำให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา ขอให้สื่อมวลชนไปสอบถามทางพนักงานสอบสวนเอง
สมเกียรติกล่าวต่อว่า การยื่นเอกสารชี้แจงในวันนี้ของตนค่อนข้างมีความสมบูรณ์พอสมควร และหลังจากนี้ต้องเข้ามาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง โดยนัดหมายให้ตนเข้าพบในเดือนมีนาคม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี ได้มีการพูดคุยกับ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าเก่า บ้างหรือไม่ สมเกียรติระบุว่า ได้มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้คุยในเรื่องนี้ เพราะว่าท่านมีความเชื่อมั่นในตนว่าตนไม่ได้ทำแบบที่ถูกแจ้งข้อหา ทั้งนี้ ตนไม่มีความกังวลใดๆ
ส่วนกรณีของเฮียเก้า หนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นตัวการสำคัญ ยอมรับว่ารู้จักกันจริง แต่ไม่เคยทำกิจการเกี่ยวกับการขายส่งตีนไก่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศร่วมกัน ไม่เคยทำธุรกิจใดๆ ร่วมกันแม้แต่เรื่องเดียว และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า รู้จักกับเฮียเก้าในแง่ใดนั้น สมเกียรติระบุว่า ตามงานสมาคมต่างๆ