วันนี้ (20 มี.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2561 เรื่อง ให้กรรมการการเลือกตั้งยุติการอยู่ปฏิบัติหน้าที่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ด้วย นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ได้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในกรณีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความเห็นของตนเกี่ยวกับกระบวนการและกําหนดการการเลือกตั้งด้วยถ้อยคําที่ไม่สมควรในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความสับสน อันจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งและการจัดการการเลือกตั้งให้สําเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทั้งได้ปรากฏข้อเท็จจริงด้วยว่า
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ได้สมัครเข้ารับการคัดเลือกให้ดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยไม่ได้ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้งเสียก่อน ซึ่งถือเป็นการกระทําที่เข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เนื่องจากตนเองเป็นผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องดังกล่าวโดยตรง และจะส่งผลต่อความถูกต้องและเป็นธรรมในการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมมาดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงไม่สมควรให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้งต่อไป
เพื่อให้การดําเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส และเป็นธรรมแก่ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกรายอื่นๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปองค์กรตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ในปัจจุบันอยู่ระหว่างการสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงมีความจําเป็นต้องกําหนดให้ประธานกรรมการการเลือกตั้ง หรือกรรมการการเลือกตั้งที่ดํารงตําแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับยังคงอยู่ในตําแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นไปอย่างต่อเนื่องและไม่กระทบต่อการเตรียมการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความสงบและบริหารจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปองค์กรตามรัฐธรรมนูญภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยุติการอยู่ปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้งตั้งแต่วันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับเป็นต้นไป
ข้อ 2 ในกรณีที่ผู้ซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการการเลือกตั้ง หรือกรรมการการเลือกตั้ง ตามมาตรา 70 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มีอายุครบ 70 ปี ให้ผู้นั้นยังคงอยู่ในตําแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวต่อไป จนกว่าประธานกรรมการการเลือกตั้งและกรรมการการเลือกตั้งที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
บทบัญญัติตามวรรคหนึ่งให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของบทเฉพาะกาลตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560
ข้อ 3 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
อ้างอิง: