วันนี้ (22 พฤศจิกายน) เกิดเหตุแผ่นดินไหวแมกนิจูด 7.0 เขย่าหมู่เกาะโซโลมอนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์รายงานว่า เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงจนข้าวของต่างๆ หล่นลงกับพื้น และทำให้เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ของกรุงโฮนีอารา เมืองหลวงของหมู่เกาะโซโลมอน
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้น 2 ครั้งในหมู่เกาะโซโลมอน โดยแผ่นดินไหวระลอกแรกอยู่ที่แมกนิจูด 7.0 ส่วนระลอกหลังนั้นอยู่ที่แมกนิจูด 6.0 ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาราว 30 นาทีถัดมา
จอย นิชา (Joy Nisha) พนักงานต้อนรับของโรงแรมเฮอริเทจพาร์คในเมืองหลวงโฮนีอารา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างหนักจนสิ่งของในโรงแรมหลายอย่างร่วงลงกับพื้น แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนใหญ่อยู่ในอาการตกใจเท่านั้น ขณะที่นักข่าวของ AFP รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นราว 20 วินาที
ภายหลังเกิดเหตุได้มีการประกาศเตือนภัยสึนามิในพื้นที่ของชายฝั่งของหมู่เกาะโซโลมอน ภายในระยะ 300 กิโลเมตร (185 ไมล์) จากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว แต่ในเวลาต่อมาศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกก็ได้ประกาศว่าภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้นั้นผ่านพ้นไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางการยังคงเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อกที่อาจตามมาอีกได้ โดยเตือนให้ระมัดระวังการอยู่ภายใต้อาคารหรืออยู่ใกล้ตึกสูง เพราะแรงสั่นสะเทือนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
ณ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีอาคารบ้านเรือนต่างๆ ได้รับความเสียหายหนัก แต่มีบางพื้นที่ของเมืองหลวงที่เกิดไฟดับ ขณะที่ผู้คนรีบหนีออกจากออฟฟิศและพยายามขึ้นไปในที่สูง เนื่องจากกังวลว่าอาจเกิดสึนามิขึ้นได้
อนึ่ง หมู่เกาะโซโลมอนตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก มีประชากรทั้งสิ้นราว 800,000 คน ขณะที่จำนวนประชาชนที่อยู่ในรัศมี 50 กิโลเมตรจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ราว 20,000 คน
ภาพ: MAVIS PODOKOLO / AFP
อ้างอิง: