‘อรรถพล’ หวัง คิกออฟ ‘โซลาร์ชุมชน’ เดือน พ.ย. หวังลดค่าไฟ 40-80 สตางค์/หน่วย ย้ำดีลพลังงานสหรัฐฯ ยึดตามกรอบเจรจา โดยไทยจะซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) น้ำมันดิบ และอีเทน มูลค่ารวมราว 176,000 ล้านบาท
27 ต.ค. อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาเห็นชอบกรอบหลักการเบื้องต้นของการดำเนิน ‘โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน’ (Community-based Solar Power Generation Project)
ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพลังงาน โดยรูปแบบโครงการจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ต่อแห่ง รวมกำลังการผลิตไม่เกิน 1,500 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ หลังจากนี้จะกำหนดขนาดและพื้นที่เป้าหมายโครงกา ร โดยจะพิจารณาจากศักยภาพระบบไฟฟ้า ความต้องการใช้ไฟของชุมชน และความพร้อมของที่ดินในพื้นที่
โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจะเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าจากโครงการในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) อัตราไม่เกิน 2.25 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 25 ปี สัญญาแบบ Non-Firm และเป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าที่ผลิตได้ให้แก่ผู้ใช้ไฟในชุมชนเป้าหมาย การคัดเลือกเอกชนร่วมดำเนินโครงการจะพิจารณาจากความพร้อมทั้งด้านคุณสมบัติและเทคนิค เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถพัฒนาและดำเนินการ ได้ตามแผนจนตลอดอายุสัญญา
“ต่อจากนี้ กฟภ. จะต้องไปดูจุดเชื่อมต่อการรับไฟ ซึ่งคาดว่ามีหลายพันจุด และเอกชนสามารถเข้าไปร่วมกับชุมชนเพื่อเสนอเข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นชุมชนที่ขึ้นอยู่กับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งจากการคำนวณเบื้องต้น คาดว่าลดค่าไฟให้กับชุมชนในพื้นที่ได้ 40-80 สตางค์/หน่วย ระยะยาว 25 ปี” อรรถพล กล่าว
ทั้งนี้ สิทธิในหน่วย Renewable Energy Certificate (REC) หรือ Carbon Credit ที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าภายใต้โครงการนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของภาครัฐ และมอบกระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กฟภ. ร่วมกันกำหนดพื้นที่ชุมชนเป้าหมาย ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. นี้
นอกจากนี้ที่ประชุม ยังได้เห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ 2569 – 2571 เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านพลังงานของประเทศ รวม 15,000 ล้านบาท โดยเน้นสนับสนุนโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงาน การพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก การวิจัยนวัตกรรม 9,000 ล้านบาท และปี 2570–2571 ปีละ 3,000 ล้านบาท ซึ่งในวงเงิน 9,000 ล้านบาทของปี 2569 นั้น จะสนับสนุนโดยเฉพาะโครงการ ‘โซลาร์สูบน้ำ’
อรรถพล กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้า เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้า Data Center 1,750 เมกะวัตต์ โดยให้ใช้งบประมาณเพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า (TIPE) ประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้แล้ว
ครอบคลุม พื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี
อีกทั้งมอบหมายให้ กฟผ. จัดทำรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งเป็นแผนการดำเนินการที่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติใหม่ วงเงินลงทุนรวมประมาณ 30,500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพ พื้นที่ภาคตะวันออกให้เพียงพอต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมดิจิทัล ในพื้นที่ EEC
อรรถพล ระบุถึง กรณีหลังจากที่ทำเนียบขาว เผยแพร่ ‘JOINT STATEMENT ON A FRAMEWORK FOR A UNITED STATES-THAILAND AGREEMENT ON RECIPROCAL TRADE’ ทั้งสองประเทศได้บรรลุ ‘ข้อตกลงว่าด้วยการค้าต่างตอบแทน’ เพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
“ไทยโดยกระทรวงพลังงานยังคงเดินหน้าเจรจาตามกรอบเจรจาที่ไทยจะซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว น้ำมันดิบ และอีเทน มูลค่าราว 176,000 ล้านบาท” อรรถพล กล่าว
