×

ดีเอสไอเร่งขยายผลกลุ่มนายทุนรายใหญ่ 4-5 บริษัท อยู่เบื้องหลังขบวนการหมูเถื่อน 161 ตู้ ยืนยันยังไม่พบนักการเมืองเอี่ยว

โดย THE STANDARD TEAM
23.07.2023
  • LOADING...
หมูเถื่อน

วันนี้ (23 กรกฎาคม) จากกรณี​ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับคดีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นคดีพิเศษที่ 59/2566 และได้ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุเนื้อสุกรแช่แข็งจำนวน 161 ตู้เสร็จสิ้นแล้ว โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนที่กรมปศุสัตว์จะนำเนื้อสุกรแช่แข็งดังกล่าวไปทำลายตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

ขณะที่ดีเอสไอได้เร่งสืบสวนสอบสวน พบพฤติการณ์ว่าขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) ดังกล่าว มีรูปแบบการกระทำความผิดเริ่มจากบริษัทผู้นำเข้าจะสั่งของจากต่างประเทศ โดยมีเรือรับขนจากต่างประเทศเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบังและมีการหลบเลี่ยงการสำแดงสินค้า อ้างว่าเป็นสินค้าแช่แข็งชนิดอื่นๆ จากนั้นจะมีห้องเย็นมารับสินค้าแล้วกระจายไปยังกลุ่มผู้ค้าคนกลาง นำไปจำหน่ายให้กับรายย่อยผ่านช่องทางโซเชียล เช่น กลุ่มทาง Facebook เป็นต้น 

 

โดย พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนขยายผลไปถึงการจับกุมห้องเย็นที่ตรวจพบซากสุกรลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ ทั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร นครปฐม สมุทรปราการ เพื่อหาความเชื่อมโยงของเครือข่ายขบวนการดังกล่าว ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องนั้น

 

ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (22 กรกฎาคม) พ.ต.ต. ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีหมูเถื่อน เปิดเผยว่า สำหรับกรณีเรื่องมีการพบกลุ่มนายทุนประมาณ 2-3 รายเข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็งนั้น 

 

ข้อเท็จจริงต้องเรียนให้ทราบว่าในจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 161 ตู้ มีบริษัทนำเข้าสินค้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 11 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้จะมี 4-5 บริษัทขนาดใหญ่ที่รับหน้าที่นำเข้าอาหารแช่แข็ง (Frozen Food) หรือพูดภาษาบ้านๆ คือ ขาใหญ่ในวงการนำเข้าสินค้าอาหารแช่แข็ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่านายทุน 4-5 รายนี้ไม่ใช่กลุ่มนักการเมือง ส่วนพฤติการณ์ที่ดีเอสไอพบคือ บริษัทเหล่านี้มีการนำเข้าสินค้าแช่แข็งบ่อยครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีหลุดรอดไปหลายส่วนบ้างแล้ว จนเหลือเพียง 161 ตู้ที่เจ้าหน้าที่ติดตามพบ อีกทั้งจากข้อมูลที่ระบุว่ามีการนำเข้าสินค้าแช่แข็งจำนวนมากนั้น บางรายการก็สำแดงเป็นอาหารแช่แข็งประเภทเนื้อปลา เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ดังนั้นสินค้าเหล่านี้จะผ่านเข้าช่องสินค้ายกเว้นการตรวจ หรือ GREEN LINE 

 

“บริษัทขนาดใหญ่ 4-5 แห่งนี้เกี่ยวข้องกับขบวนการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน เพราะมีพฤติการณ์นำเข้าจำนวนมาก และในห้วงสัปดาห์หน้าคณะพนักงานสอบสวนจะมีการประชุมเพื่อมีมาตรการเข้มข้นในการดำเนินการกับบริษัทขนาดใหญ่เหล่านี้ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นบริษัทของไทย และมีแหล่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล” พ.ต.ต. ณฐพลกล่าว

 

พ.ต.ต. ณฐพล กล่าวต่อว่า นอกจากขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนแล้ว เรายังพบว่ามีขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อวัวในพื้นที่ภาคใต้อีกด้วย เบื้องต้นพบว่าเป็นการนำเข้าในลักษณะกองทัพมดผ่านห้องเย็น บรรจุในกล่องเหมือนที่ท่าเรือแหลมฉบัง และนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นการพบโดยสามหน่วยงาน ได้แก่ กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร และดีเอสไอ (ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้) ส่วนจำนวนปริมาณเนื้อวัวที่มีการลักลอบนำเข้านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์ และตนยังได้รับรายงานว่าทางกรมศุลกากรอาจตรวจยึดไปบ้างแล้ว 

 

ทั้งนี้ ทางกรมศุลกากรกับกรมปศุสัตว์อาจรายงานแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ให้ดำเนินการ เนื่องจากในกรณีที่ดีเอสไอจะเข้าไปร่วมบูรณาการหรือรับเป็นคดีพิเศษ จะต้องมีความเสียหายมากกว่า 30 ล้านบาท จากนั้นพนักงานสอบสวนในท้องที่จึงจะประสานและส่งสำนวนมาให้ดีเอสไอรับหน้าที่ต่อเหมือนกับคดีขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้

 

เมื่อถามว่าสำนวนคดีที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธร (สภ.) แหลมฉบัง เป็นอย่างไรบ้างนั้น พ.ต.ต. ณฐพลเผยว่า เจ้าหน้าที่ สภ.แหลมฉบัง ได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรในฐานะผู้กล่าวหาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการสอบปากคำ ภาพรวมเนื้อหาที่พบคือสอบในประเด็นลักษณะความผิดเฉพาะบริษัท แต่ในส่วนที่ดีเอสไอต้องดำเนินการต่อคือการสอบสวนขยายผลไปถึงตัวการผู้อยู่เบื้องหลัง โดยเราจะเริ่มจากการสอบปากคำบริษัทสายเรือทั้ง 17 แห่งในฐานะพยานก่อน เพื่อขอข้อมูลในประเด็นที่ว่ามีบริษัทใดสั่งสินค้า และบริษัทใดที่มาว่าจ้างให้สายเรือไปรับสินค้า และรับสินค้าที่ไหน เป็นต้น 

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างรอเอกสารที่ได้ส่งไปยังบริษัทสายเรือทั้ง 17 แห่ง โดยเป็นเอกสารเกี่ยวกับบริษัทผู้ว่าจ้างให้ขนส่งสินค้า และสินค้าดังกล่าวที่ได้รับว่าจ้างเป็นสินค้าประเภทไหน คาดว่าจะได้รับครบถ้วนภายในสัปดาห์นี้

 

ทั้งนี้ ภายหลังรับเอกสารชี้แจงครบถ้วนจาก 17 สายเรือแล้ว ดีเอสไอจะดำเนินการตรวจสอบเอกสาร จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการออกหมายเรียกพยานแก่สายเรือทั้ง 17 แห่ง เพื่อให้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงตามเนื้อหาภายในเอกสาร ถัดไปจึงจะออกหมายเรียกพยานแก่บริษัทชิปปิ้งเอกชนทั้ง 11 แห่งให้เข้าให้ปากคำ

 

เมื่อถามว่าทางการข่าวของดีเอสไอในขณะนี้พบว่ามีกลุ่มนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนบ้างหรือไม่ พ.ต.ต. ณฐพลชี้แจงว่า ในขณะนี้ยังไม่พบ มีเพียงสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติที่ให้ข้อมูลผ่านการให้สัมภาษณ์สื่อ ยังไม่ได้มอบพยานหลักฐานเอกสารใดกับดีเอสไอ ดังนั้นในตอนนี้ดีเอสไอตามนโยบายของ พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ ได้เปิดช่องทางทั่วทุกภูมิภาคให้ประชาชนหรือผู้เกี่ยวข้องสามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอจะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปสืบสวนและขยายผลต่อไปได้ว่ามีนักการเมืองรายใดเข้ามาเกี่ยวข้องพัวพันหรือไม่

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X