บมจ.สินมั่นคงประกันภัย (SMK) รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในไตรมาสแรกปี 2565 บริษัทมีผลดำเนินงานขาดทุนสุทธิรวม 29,421 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นผลดำเนินงานที่ลดลงกว่า 16,794% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 176 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลดำเนินงานของ สินมั่นคงประกันภัย ลดลงถึง 16,794% เนื่องจากในไตรมาสแรกปี 2565 บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม 31,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29,388 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 1,313% โดยมีสาเหตุหลักดังนี้
- สำรองความเสี่ยงภัยที่ยังไม่สิ้นสุดในไตรมาสแรกปี 2565 จำนวน 6,374 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 100% เป็นผลจากจำนวนเบี้ยประกันภัยไม่เพียงพอต่อค่าสินไหมทดแทนโควิด จึงต้องตั้งสำรองความเสี่ยงภัยที่ยังไม่สิ้นสุดเพิ่มเติม
- ค่าสินไหมทดแทนในไตรมาสแรกปี 2565 มีจำนวน 24,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23,166 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 1,649% โดยแยกเป็นค่าสินไหมทดแทนประเภทอื่นๆ 1,311 ล้านบาท และค่าสินไหมทดแทนโควิดเท่ากับ 23,260 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อในปี 2564
- กำไรจากการรับประกันภัยในไตรมาสแรกปี 2565 มีผลขาดทุนจำนวน 29,187 ล้านบาท เนื่องจากการรับประกันโควิดประสบผลขาดทุนเป็นจำนวนเงินสูงถึง 29,479 ล้านบาท ส่วนการรับประกันภัยประเภทอื่นๆ มีผลกำไรจำนวน 292 ล้านบาท
ส่วนรายได้รวมของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 มีจำนวน 2,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.79% สาเหตุจากเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ในไตรมาสนี้มีจำนวน 2,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เป็นผลจากสำรองเบี้ยประกันภัยบวกกลับที่ลดลงจากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนจำนวน 566 ล้านบาท ขณะเดียวกันรายได้และกำไรจากการลงทุนลดลง 17.54 ล้านบาท ลดลง 32.64%
กล่าวโดยสรุป สาเหตุหลักที่ทำให้ผลดำเนินงานของสินมั่นคงประกันภัยประสบผลขาดทุนสูงถึง 29,421 ล้านบาท มาจากจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนโควิดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2564 ซึ่งมีจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนโควิดเพียง 19.08 ล้านบาท
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP