สิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ต้องเรียนรู้ก่อนเสียโอกาส

สิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ต้องเรียนรู้ก่อนเสียโอกาส!?

ผู้ประกอบการรายย่อยจนถึงปานกลาง หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ธุรกิจ SME หากถามพวกเขาว่าธุรกิจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เกือบทุกคนคงต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เหนื่อยมาก”

ปัจจุบันธุรกิจ SME ไทยเจอความเหนื่อยล้ามาตลอด

ปัจจัยที่ทำให้ SME ต้องเผชิญกับความท้าทาย

การแข่งขันที่เข้มข้นและท้าทาย

การแข่งขันของ SME ไทยหรืออาจจะทั่วโลกในตอนนี้เต็มไปด้วยความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันของ SME ด้วยกันเอง การเปลี่ยนกลยุทธ์ของบริษัทเจ้าใหญ่ๆ และโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค แม้ของคุณจะราคาถูกกว่าเจ้าอื่นๆ แต่ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่จะไม่ซื้อ เพราะลูกค้ามองหาคุณภาพและความคุ้มค่าในราคาที่จ่ายไป สงครามที่ผู้นำธุรกิจไร้ ‘ความรู้และกลยุทธ์’ ย่อมทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปไม่ยั่งยืนและล้มหายไป

เงินทุนคือเรื่องสำคัญ

เงินทุนคือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ไม่ว่าธุรกิจจะมีแผนการที่ยอดเยี่ยมเพียงใด หากขาดเงินทุนก็ย่อมเดินหน้าต่อไม่ได้ การเข้าถึงเงินทุนในปัจจุบัน เช่น การขอสินเชื่อจากธนาคาร จึงเป็นทางเลือกสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างโอกาสให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง ธนาคารไม่ได้เป็นเพียงแหล่งเงินทุน แต่ยังเป็นพันธมิตรที่พร้อมสนับสนุนแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการมั่นใจว่าธุรกิจจะเดินหน้าไปถึงเป้าหมายอย่างยั่งยืน เพราะในทุกการลงทุนธนาคารพร้อมเคียงข้างเพื่อร่วมสร้างคุณค่าและความสำเร็จไปด้วยกัน

เทรนด์ใหม่พลิกโฉมธุรกิจ

โลกทุกวันนี้ตื่นมาก็เห็นเทคโนโลยีเป็นอย่างแรก เพียงจะซื้ออะไรมากิน สั่งของมาใช้ที่บ้าน หรือทำงานให้จบไปหนึ่งวัน มีอะไรที่ไม่ได้เกิดจากสิ่งใหม่ๆ ที่เรียกว่านวัตกรรมบ้าง? ธุรกิจ SME ต่างเดินหมากดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อช่องทางการขาย หรือการพัฒนาอีกขั้นอย่าง ‘การปรับใช้ AI’ เข้ากับธุรกิจ เพื่อหาตลาด ช่องทางการขาย หรือวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อเอาชนะตลาดก่อนใคร

อะไรจะช่วยให้ SME พลิกเกมและก้าวข้ามความท้าทายนี้

คีย์เวิร์ดล้วนปรากฏในความท้าทายที่กล่าวมา ‘ความรู้และกลยุทธ์’ ‘นวัตกรรมและเทคโนโลยี’ และ ‘ความยั่งยืน’ หากมีเพียงสักหนึ่งด้าน คุณจะนำหน้าธุรกิจ SME อื่นๆ แต่หากมีทั้งหมด คุณจะนำหน้าได้ทุกๆ ธุรกิจ ทุกๆ อุตสาหกรรม

ESG จะเปิดโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ SME ไทย

พัฒนาสามเหลี่ยมความยั่งยืน

สามเหลี่ยม ESG หรือสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) สามสิ่งนี้คือตัวเปลี่ยนเกมสำคัญของธุรกิจยุคนี้ เพราะการปรับเปลี่ยนธุรกิจตามหลัก ESG จะช่วยดึงดูดลูกค้ายุคใหม่ที่ยอมจ่ายของแพงขึ้นแต่มีคุณภาพและรักษ์โลก ทั้งยังช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนและพาร์ตเนอร์ที่มองหาธุรกิจที่รับผิดชอบสังคมและโลกมากขึ้น อีกทั้งยังรอดพ้นจากความท้าทายจากกฎเกณฑ์โลกใหม่เปลี่ยนไป การพัฒนาด้าน ESG และปรับใช้เข้าไปในองค์กรจะทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งตั้งแต่รากฐาน เติบโตได้อย่างยั่งยืน และอยู่รอดในทุกยุคสมัย

นวัตกรรมต้องเริ่มวันนี้

หากคุณไม่เริ่มใช้นวัตกรรมวันนี้ คู่แข่งคุณอาจใช้ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นวัตกรรมจะต้องเริ่มใช้เพื่อสร้างแต้มต่อและก้าวนำธุรกิจอื่นๆ ทั้ง AI เพื่อลดเวลาการทำงาน และใช้เป็นเพื่อนคู่คิดในธุรกิจ การพัฒนา IoT ไปกับสินค้าและบริการของเรา การเพิ่มช่องทางขายใน e-Commerce หรือแม้กระทั่งการดึงข้อมูล Big Data มาสร้างกลยุทธ์ธุรกิจ สิ่งเหล่านี้คือการเติมเครื่องมือให้ธุรกิจพร้อมรับทุกเทรนด์และเดินหน้าธุรกิจได้รวดเร็ว

คุณลักษณะของผู้นำที่ต้องสร้าง

แน่นอนเมื่อคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณคือ ‘ผู้นำ’ โดยปริยาย ผู้นำจะต้องเริ่มต้นติดอาวุธด้านความรู้และมายด์เซ็ตที่ดีต่อธุรกิจเสียก่อน จากนั้นจึงเผยแพร่ให้คนในองค์กรเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กร ทั้งการตั้งเป้าหมายเดียวกัน การสร้างสังคมการทำงานที่ยืดหยุ่นและปลอดภัยในการออกความเห็นและความคิด สิ่งเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นในองค์กรทั้งผู้นำและผู้ตามก็จะดำเนินธุรกิจไปถูกทิศทาง

ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB มองเห็นสิ่งนี้และร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ SME ไทยเสมอมา โดยสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2024 คือ

ด้าน ESG

Bootcamp เพิ่มกำไร SME อย่างยั่งยืนด้วย ChatGPT and ESG: หลักสูตรแนะนำด้าน ESG มาปรับใช้ในธุรกิจเพื่อลดต้นทุนพลังงานและสร้างโอกาสธุรกิจ ทั้งวิธีการและความรู้
ESG Start Now 2024 at Phuket Bootcamp: หลักสูตรยกระดับ SME ด้านโรงแรมและท่องเที่ยวด้วย ESG เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
Global Trade: Leading the Way in ESG: หลักสูตรเพื่อเสริมเติมความรู้ด้าน ESG เสริมศักยภาพการส่งออก ลดความเสี่ยง และแนะแนวทางการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน

ด้าน Innovation

IBE 5th: Sustainnovation Enterprise: ช่วย SME คิดเชิงนวัตกรรมที่ยั่งยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Product, Process และ Service Innovation ควบคู่กับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
Digital Smart Manufacturing รุ่นที่ 2: มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต
Art of Brand Protection: เข้าใจหลักการสร้างแบรนด์อย่างมืออาชีพ ให้มีเครื่องมือรับมือกับความท้าทายต่างๆ สามารถปกป้องและเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร และพัฒนาความน่าเชื่อถือและการยอมรับในตลาด

ด้าน Leadership

SCB IEP 18 ALPHA+ Leader ผู้นำเหนือผู้นำ: หลักสูตรสำหรับผู้บริหาร SME ที่ต้องการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ การเปลี่ยนกระบวนการใช้ AI เพื่อยกระดับธุรกิจ และถอดรหัสมุมมองนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
Next-Gen Business Leaders: การต่อยอดธุรกิจสำหรับผู้สืบทอด เน้นการสร้างความเข้าใจและพัฒนาธุรกิจครอบครัว การสื่อสาร ของคนต่างวัยการบริหารการเงิน และการปรับตัวธุรกิจสู่ความยั่งยืน
หลักสูตรเรื่องการเงิน: ปรับบัญชีถูกต้อง ธุรกิจโตง่ายอย่างยั่งยืน: ช่วยให้ธุรกิจมีระบบการเงินและการบัญชีที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง และได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน บริหารภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย
The DOTs Bootcamp: Futurepreneurs ทายาทธุรกิจก้าวข้ามขีดจำกัดสู่อนาคต: หลักสูตรเข้ม 8 โมเดล สำหรับทายาท SME รับช่วงธุรกิจ มุ่งแก้ปัญหาการส่งต่อ โดยเน้นการบริหาร การสื่อสารข้ามรุ่น และการปรับตัวเข้าสู่ยุค Sustain เพื่อสร้างความเข้มแข็งและความต่อเนื่องของธุรกิจครอบครัวอย่างยั่งยืน

SCB SME เสริมแกร่งธุรกิจ SME ให้ความรู้ในแต่ละด้านอย่างมากมาย เพื่อให้ SME ที่เป็นรากฐานอุตสาหกรรมและระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืนและอยู่รอด ทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2024 เท่านั้น และในปี 2025 จะมีอะไรที่มาสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ไทย ติดตามได้ที่

https://www.scb.co.th/th/sme-banking/sme-academy

ข่าวที่เกี่ยวข้อง