วานนี้ (21 มกราคม) ศ. ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมหารือทวิภาคีร่วมกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ เรมี เอเจล (Remy Ejel) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย โอเชียเนีย และแอฟริกา (Chief Executive Officer Zone Asia, Oceania and Africa) บริษัทเนสท์เล่ (Nestlé) ในการประชุม World Economic Forum Annual Meeting 2025 (WEF AM25)
ศ. ดร.นฤมล กล่าวว่า ไทยขอให้บริษัทเนสท์เล่สนับสนุนเกษตรกรไทย มุ่งสู่เกษตรสมัยใหม่และการเป็น Smart Farmer โดยเฉพาะเรื่องการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และนวัตกรรม ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ช่วยลดต้นทุน ตลอดจนลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมโคนมและการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูง
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความตั้งใจในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร และร่วมผลักดันเป้าหมายของไทยในการส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืน นอกจากนี้ความตกลงเขตการค้าเสรี FTA ไทย – EFTA ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับภาคเอกชนไทยและต่างประเทศที่ลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นด้วย
ศ. ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า บริษัทเนสท์เล่ได้แสดงความมุ่งมั่นว่าจะลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมกาแฟไทย โดยในช่วงปี 2561-2567 เนสท์เล่ได้ลงทุนในประเทศไทยเพื่อขยายสายการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟ เครื่องดื่ม UHT และอาหารสัตว์ รวมสูงถึงกว่า 2.28 หมื่นล้านบาทในปี 2568 และในอนาคตบริษัทจะลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายสายการผลิตอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในโรงงานผลิตเนสกาแฟ และสนับสนุนเกษตรกรไทยในการขยายพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ ซึ่งเป็นพืชเกษตรที่เป็นที่ต้องการของตลาดและมีราคาดี รวมทั้งจะสนับสนุนการให้ความรู้ด้านการเพาะปลูกกาแฟแก่เกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง และรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรไทยในราคาที่เป็นธรรมเหมือนเช่นที่เคยสนับสนุนเกษตรกรไทยมาตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทเนสท์เล่ เป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีโรงงานผลิตในประเทศไทยถึง 9 แห่ง เพื่อผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ชั้นนำที่คนไทยนิยมมาเป็นเวลานาน เช่น เนสกาแฟ ไมโล และนมตราหมี