×

ษิทราเปิดเส้นทางเงินส่วย อ้างโยงถึงญาติ ผบ.ตร. ยืนยันไม่ได้รับงานใคร เดินหน้านำข้อมูลเข้าแจ้งความ 28 มี.ค. นี้

โดย THE STANDARD TEAM
26.03.2024
  • LOADING...

วันนี้ (26 มีนาคม) ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดเผยถึงขบวนการเรียกรับผลประโยชน์เชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจระดับนายพล พร้อมเปิดหลักฐานเส้นทางการเงิน ภาพกล้องวงจรปิด สลิปการโอนเงิน และแชตข้อความต่างๆ 

 

ข้อมูลที่ษิทราเปิดเผยในการแถลงข่าวเชื่อมโยงนายตำรวจระดับสูง โดยปรากฏชื่อ 3 นาย ได้แก่

 

  • ดาบยาว หรือ ด.ต. อภิชาติ สุวรรณเพ็ชร กองกำกับการ 1 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (กก.1 บช.สอท.2)
  • รองฟาง หรือ พ.ต.ท. สุรกุล ธัญสิริดำรง รองผู้กำกับการ กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 
  • พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

 

ษิทราเล่าย้อนไปว่า เมื่อก่อน ผบ.ตร. คนปัจจุบันมีอำนาจดูแลเพียง 2 กองบังคับการ คือ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) และกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (คอมมานโด) ต่อมาเป็นการดูแลภายใต้ พล.ต.ท. กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ที่เลื่อนขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

ษิทรากล่าวต่อว่า พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ได้ส่งลูกน้องเข้าไปดูแลงานใน บช.สอท. แทน ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวมีข้อมูลว่ามีผลประโยชน์มากมาย เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ 

 

ทำให้ขณะนี้ปรากฏ 3 หน่วยงานภายใต้การดูแลของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ได้แก่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.), กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (คอมมานโด) ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานนี้มีการเรียกรับผลประโยชน์จาก 18 ธุรกิจสีเทา 

 

เช่น เว็บพนันออนไลน์ ตลาดนัด เงินกู้นอกระบบ และกลุ่มขายยาเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสาย รวม 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย แต่ละสายจะมีหัวหน้าชุด หรือเรียกว่า ‘แม่บ้าน’ เป็นจ่าตำรวจและดาบตำรวจทำหน้าที่เก็บรวบรวมเงินผ่านบัญชีม้ารวม 3 บัญชีหลัก ได้แก่ บัญชีชื่อ ณัฐพงศ์ และบัญชีชื่อ มงคล มีดาบยาวเป็นผู้ดูแล ส่วนบัญชีชื่อ คชาชาญ มีรองฟางเป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ยังมีบัญชีอื่นๆ ด้วย ซึ่งบางบัญชีพบว่าชื่อเจ้าของบัญชีเสียชีวิตไปแล้ว คือบัญชีชื่อ สำฤทธิ์ แต่ยังคงมีการทำธุรกรรมอยู่ 

 

ษิทรากล่าวต่อว่า แม่บ้านแต่ละสายจะรวบรวมเงินทั้งหมดที่ได้ส่งต่อไปยังบัญชีม้าที่ใช้ชื่อว่า มงคล กับ ณัฐพงศ์ จากนั้นจะมีการโอนเงินจากทั้ง 2 บัญชีส่งไปยังบัญชีม้าที่ชื่อ คชาชาญ ก่อนจะโอนเงินต่อไปยังบัญชีภรรยาของรองฟางอีกทอด 

 

รวมถึงมีการโอนเงินไปยังบัญชีที่ใช้นามสกุล สุขวิมล ซึ่งเป็นครอบครัวของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ แต่ละสายจะส่งเงินเดือนละ 8-9 ล้านบาท และหลังจากนั้นจะรวบรวมส่งไปยังระดับสูงสุด รวมเดือนละกว่า 100 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้ยังพบว่า เส้นทางการเงินมีการโอนต่อไปยังนักข่าวกองบังคับการปราบปราม สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 

 

ษิทราเปิดเผยเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของบัญชีม้าที่ชื่อคชาชาญอีกว่า เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 มีการโอนเงิน 500,000 บาท และ 200,000 บาท รวมเป็น 700,000 บาท เข้าบัญชีทอดกฐิน สร้างวิหารวัดนครอินทร์ ซึ่งมีชื่อ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ เป็นประธานในพิธีด้วย 

 

ษิทรากล่าวยืนยันว่า ในการนำข้อมูลมาเปิดเผยครั้งนี้ไม่ได้รับงานใครมา และไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง แต่ต้องการให้สังคมรับรู้ข้อมูล แม้จะรู้ว่าอาจได้รับอันตรายจากการออกมาเปิดเผย ทั้งนี้ ยอมรับว่าก่อนจะมีการแถลงข่าวมีนายตำรวจใหญ่ติดต่อมาเพื่อขอทราบข้อมูล แต่ไม่ได้ขอให้ยกเลิกการแถลงข่าว 

 

รวมไปถึงทาง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) โทรศัพท์มาขอให้ยกเลิก เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบทำให้ไม่ได้กลับเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ตนยืนยันกลับไปว่าจะนำข้อมูลมาเปิดเผย

 

ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าวษิทราได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อประสานนัดหมายนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความในวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม เวลา 11.00 น.

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X