×

ศิธาบอกรัฐบาลเศรษฐาดีกว่ารัฐบาล 9 ปีที่ผ่านมา มองสุทินพลเรือนคนแรกนั่ง รมว.กลาโหม เป็นนิมิตหมายที่ดี ชี้กองทัพควรเพิ่มเงินเดือนแต่ลดกำลังพลที่ไม่จำเป็น

โดย THE STANDARD TEAM
19.09.2023
  • LOADING...
ศิธา ทิวารี

วันนี้ (19 กันยายน) น.ต. ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ถึงรูปแบบการทำงานของรัฐบาลชุดนี้เป็นอย่างไรบ้างว่า ดีกว่า 9 ปีที่ผ่านมา อาจจะมีคนจำนวนมากผิดหวังกันบ้าง เพราะช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาคนก็คาดหวังว่าเครือข่ายของรัฐบาลชุดเก่าจะออกไป ซึ่งตอนนี้ก็ต้องเดินหน้าต่อ หากไม่เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองรัฐบาลก็สามารถดำรงอยู่ได้ครบวาระ ต้องปล่อยให้เขามีโอกาสได้ทำงาน ส่วนขัดใจการบริหารของรัฐบาลตรงไหนบ้างนั้น ตนว่าประชาชนก็คงค่อยๆ ปรับความรู้สึก ถามว่าขัดใจหรือไม่นั้น หลายคนก็คงรู้สึก เพราะในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาเราก็คาดหวังไว้อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็คงปรับอารมณ์กันได้บ้างแล้ว คิดในแง่บวกว่าดีกว่า 9 ปีที่ผ่านมา 

 

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นอดีตทหาร มองศักยภาพการทำงานของ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นพลเรือนคนแรกที่ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในการดำรงตำแหน่งนี้ อย่างไรบ้าง น.ต. ศิธา กล่าวว่า ตนมองว่าสุทินเป็นนักการเมืองที่อาวุโส อยู่ในการเมืองมานาน เลือกตั้งก็ประสบความสำเร็จมาตลอด ถ้ามองในแง่ดีก็คือเป็นนิมิตหมายอันดี จริงๆ แล้วระบบของประเทศทุกประเทศต้องเป็นระบบสั่งการทางเดียว ต้องควบคุมกลไกทุกอย่างให้ได้ ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องสังคม และเรื่องการศึกษา แต่ปรากฏว่าประเทศไทยผิดแผกแตกต่างจากประเทศอื่น คือทหารไม่ได้ฟังคำสั่งจากรัฐบาล ถ้าเกิดขยับมาในจุดที่พอดีก็จะเป็นสิ่งที่ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะมีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกได้

 

ในอีกมุมหนึ่ง การที่สุทินนั่งกระทรวงกลาโหมจะสามารถบังคับบัญชากระทรวงในเรื่องต่างๆ ได้จริงมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ต้องรอดู แต่เท่าที่ดูในหลายๆ เรื่องก็มีการปรับเรื่องเกณฑ์ทหาร ตนมองว่า 

 

  1. พลทหารมีความจำเป็นที่จะต้องมีในกองทัพ 

 

  1. คือมีจำนวนประมาณ 100,000 คนต่อปี หากเกณฑ์ 2 ปีก็แบ่งปีละ 50,000 คน ทั้งนี้ คนที่ต้องการเป็นทหารจริงๆ มีน้อย แต่ความต้องการทหารมีจำนวนมาก จึงเกิดการบังคับให้มีการเกณฑ์ทหาร หากเป็นแบบสมัครใจไปเลยน่าจะดีกว่า ตนยังยืนยันว่าทหารจำเป็นต้องมี แต่ต้องมีในปริมาณที่เหมาะสม

 

เมื่อถามว่า จะมีการซื้อใจทหารอย่างไรให้คนสมัครใจเพิ่มขึ้น น.ต. ศิธา กล่าวว่า หากมีเงินเดือนที่เพียงพอ เปลี่ยนจากเดือนละ 10,000 ต่อคน เป็น 15,000 ต่อคน คนสมัครน่าจะมากขึ้น ลดทหารที่ถูกใช้ไปทำสวน รับ-ส่งลูกเจ้านาย ขัดรองเท้าลงได้ ก็อาจจะเจอจุดที่พอดี โดยจะใช้งบประมาณเท่าเดิมแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

เมื่อถามถึงความเป็นห่วงในเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ น.ต. ศิธา กล่าวว่า การซื้อเรือดำน้ำเรากำหนดไว้ว่าจะต้องใช้การได้ พอถึงเวลาซื้อเสร็จแล้วไม่มีเครื่องยนต์ ก็ควรใช้เหตุในการที่ไม่มีเครื่องยนต์นี้เป็นเหตุของการผิดสัญญาและยกเลิก ตนมองว่าบ้านเราไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเรือดำน้ำหรือเรือบรรทุกเครื่องบินเหมือนกับประเทศที่เป็นมหาอำนาจ เพราะเรือดำน้ำใช้ในการรบ เรือดำน้ำต้องแฝงเข้าไปในน่านน้ำสากล เพื่อไปยิงอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งไม่ใช่ในประเทศไทย ตนมองว่าไม่มีความจำเป็นพอที่จะซื้อของดีๆ มาให้ชมแค่วันเด็ก ไม่คุ้มค่า

 

เมื่อถามถึงกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะบินไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนีในเรื่องเรือดำน้ำ มีอะไรจะฝากถึงนายกฯ หรือไม่ น.ต. ศิธา กล่าวว่า ทางที่ดีเราใช้เหตุผลในการที่เยอรมนีไม่สามารถส่งมอบเรือดำน้ำได้ตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งควรยกเลิกสัญญา และนำเงินมาทำอย่างอื่นดีกว่า ตนเชื่อว่าราคาเรือดำน้ำหนึ่งลำสามารถนำมาสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพได้ ไม่ใช่ว่ากำลังทหารไม่ควรพัฒนา แต่ควรจะมีในเกณฑ์ที่ไม่มีใครมารุกรานเราได้ เพราะเราไม่ได้ไปรุกรานใครอยู่แล้ว แต่ในช่วงนี้ที่ประเทศเรายังประสบวิกฤตเศรษฐกิจ เราควรนำเงินไปใช้ในด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ แต่ขณะเดียวกันกำลังทหารก็ควรมีเพียงพอเพื่อป้องกันประเทศ

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X