‘สิริพงศ์’ เปิดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน! เตรียมดัน ‘คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน’ คัมแบ็ก เล็งปรับผู้มีสิทธิ์อายุเริ่ม 16 ปี ลดค่า GP Food Delivery หวังเงินหมุนในระบบเร็ว-ตรงจุด พร้อมชูมาตรการลดค่าครองชีพ และภาษี ดึงเศรษฐกิจสู่ระบบ ชี้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะกลาง-ยาว ขอ ‘ปลดล็อก สิ่งที่ติดล็อก’
สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า นโยบาย ‘คนละครึ่ง’ เป็นนโยบายที่หยิบยกมาเป็นนโยบายเรือ ‘ธงแรก’ ของพรรค เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
“จริงๆ ฝ่ายนโยบายของพรรคได้มีการพูดคุยกัน โดยมีธงจากท่านนายกรัฐมนตรีที่พูดไปว่าจะเร่งแก้ไขปัญหา 4 ด้าน ที่เป็นภัยคุกคามและส่งผลต่อชีวิตของประชาชน ช่วง 4 เดือนนี้”
หนึ่งในนั้นคือภัยเศรษฐกิจ รัฐบาลจะเร่งดำเนินมาตรการลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพ ลดค่าพลังงาน ค่าเดินทาง ค่าขนส่งต่างๆ และแก้ไขปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย รวมถึงหาวิธีการต่างๆ ทั้งทางกฎหมายและการอำนวยความสะดวก เพื่อเสริมสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการและประชาชน ตลอดจนทำให้รายได้ของชุมชนท้องถิ่นมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
“แนวคิดหลัก คือ ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ควรจะมีนโยบายไหนบ้าง ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้ เห็นผล ไม่ยุ่งยาก และใช้เงินไม่เยอะ”
นโยบายคนละครึ่งทำให้กลไกใช้จ่าย หมุนเวียนเชิงเศรษฐกิจเกิดขึ้นจริง เนื่องจากเงื่อนไขของคนละครึ่งจะมีผลต่อคนก็ต่อเมื่อมีการใช้เงิน คือคนไม่สามารถเก็บได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์จะต้องใช้เงินทุกวัน ซึ่งใช้เงินกับสินค้าที่เขาจะต้องบริโภคอยู่แล้ว ซึ่งเป็นนโยบายที่ใช้ได้ 4 เดือน อย่างไรก็ตาม ยังมีนโยบายเศรษฐกิจด้านอื่นๆ อีกหลายเรื่องที่อยู่ระหว่างผลักดัน
ต่อคำถามที่ว่า จะนำงบประมาณจากแหล่งไหนมากระตุ้นเศรษฐกิจภายในระยะเวลาอันจำกัดนี้ สิริพงศ์ ระบุว่า เบื้องต้นตามที่ปลัดกระทรวงการคลังได้เสนอว่ามีงบประมาณ 25,000 ล้านบาทสามารถนำมาใช้ได้ในเดือนตุลาคม ซึ่งต้องมาดูรายละเอียด เบื้องต้น หากดูฐานข้อมูลเดิมน่าจะประมาณ 25 ล้านคน
ฝากการบ้าน ว่าที่ รมว.คลัง
ทั้งนี้ จากการหารือได้นำเรียนว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังว่า จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กลุ่มผู้เสียภาษี หมายความว่า สิทธิ์ขั้นพื้นฐานของประชาชนทั่วไปที่อาจจะไม่ได้อยู่ในระบบเสียภาษี แต่หากตัดสินใจเข้าสู่ระบบ ก็จะได้สิทธิมากยิ่งขึ้น จะเป็นลักษณะ ให้สิทธิประโยชน์ (Incentive) สำหรับคนเสียภาษี
“เราคิดว่าจะขยายอายุผู้ได้รับสิทธิ์จาก 18 ปี ขยับเป็น 16 ปี เพราะเราคิดว่าพฤติกรรมของเด็กมัธยมปลาย เทียบกับเด็กมหาวิทยาลัยหรือผู้ใหญ่มีการบริโภคต่างกัน ดังนั้น ถ้าเราขยับอายุเข้ามาหน่อยก็จะช่วยกระตุ้นไปด้วย นี่คือสิ่งที่ให้เป็นการบ้านว่าที่รัฐมนตรีคลังไป”
นอกจากนี้ วันนี้ ได้มีสมาคมภัตตาคาร Lineman Wongnai Grab ติดต่อเข้ามาขอคุยรายละเอียดกับพรรค ซึ่งจะถือโอกาสพูดคุยปัญหาและสรุปเสียงสะท้อนให้ฟัง เช่น การควบคุมราคา และกรณี GP ค่า GP (Gross Profit)
คือ ค่าธรรมเนียมที่ร้านอาหารต้องจ่ายให้กับแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ เช่น GrabFood, LINE MAN, ShopeeFood เพื่อเป็นค่าบริการและแลกกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การตลาด โค้ดส่วนลด และการเข้าร่วมแคมเปญ โดยอัตรา GP จะแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม แต่โดยทั่วไปจะอยู่ประมาณ 30-35% ของยอดขาย การคำนวณจะหักค่า GP และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) จากยอดขายทั้งหมดก่อนโอนเงินให้ร้านค้า
“เราจะใช้เวทีนี้ในการต่อรองลดค่า GP ให้กับผู้บริโภค กรณีร้านค้า ที่ห่วงในกรณีการเสียภาษีย้อนหลัง ซึ่งได้หารือท่านรัฐมนตรีไปว่า ขอให้ไม่มีการเก็บย้อนหลัง นำเงินเข้าระบบตามที่เกิดขึ้นจริง จะไม่เก็บย้อนหลัง เพื่อคลายกัผู้บริโภคพ่อค้าแม่ค้า”
ดึงเศรษฐกิจเข้าสู่ระบบ
ตรงนี้เป็นจุดประสงค์หลักที่ว่า ต้องการดึงเศรษฐกิจเข้าสู่ระบบ และเป็นหนึ่งแนวทางให้เข้าสู่ระบบการเสียภาษี เพียงแต่เพิ่มสิทธิประโยชน์บางประการเข้าไป
คาดหวัง แผนกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้าย อย่างไร แค่ไหน “ต้องขอเวลาให้นักวิเคราะห์ดูวินัยทางการคลัง ว่าเม็ดเงินที่เรามีควรใช้จ่ายวันละเท่าไร ใช้ระยะเวลานานเท่าไร เมื่อเงินมีจำกัด เราจะให้เงินหมุนในระบบนานเท่าไร และต้องลองดูว่าเม็ดเงินจากงบกลาง ถ้าท่านนายกจะเอามาเพิ่ม สามารถเพิ่มได้หรือไม่ เท่าไหร่ อย่างไร ต้องขอดูตัวเลขอีกครั้ง”
นอกจากคนละครึ่ง ยังมีโครงการที่น่าจะนำกลับมาใช้ อาทิ เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งไม่ได้ทำเวอร์ชั่นใหม่ แต่จะอุดรูรั่วเวอร์ชันเก่า ที่ได้ยินกระแสเรียกร้องให้นำมาปรับใช้ รวมถึง เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ที่คิดว่าจะนำมาปรับใช้ เนื่องจากช่วงนี้ Q4 เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยว สินค้าต่างประเทศที่จะไหลเข้ามาทะลักกระทบต่อราคาพืชผลตกต่ำลง จะมีการป้องกันเรื่องเหล่านี้อย่างไร
มองแผนเศรษฐกิจระยะกลาง-ยาว เน้นปลดล็อกสิ่งที่ติดล็อก
ฝั่งนโยบายมองว่า อาจจะมีการทำกำแพงภาษีประเทศที่ทำการเกษตรที่ไม่ใช่กรีน เช่น ประเทศที่ไม่มีการเผาไร่นา ไทยก็สามารถตั้งกำแพงภาษีที่สูงได้ เป็นแนวคิดที่จะทำแน่นอน และหากไม่สามารถประกันรายได้พืชผลทางการเกษตรเมื่อในอดีต เราจะทำอย่างไร ที่จะช่วยเหลือเกษตรกรได้มากที่สุด
เมื่อถามว่ามีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะกลาง-ยาว ไว้อย่างไรนั้น สิริพงศ์ ระบุว่า เบื้องต้นได้วางกรอบนโยบาย นอกจากควิกวิน 4 เดือน ซึ่งเวลาสั้นมาก ดังนั้น
“การปลดล็อกสิ่งที่ติดล็อกก่อน เช่น เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) มาหารือเพื่อหาแนวทางปลดล็อกเงื่อนไขเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้ให้การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ใหม่ โดยเฉพาะปรับโครงสร้างเพื่อให้อนาคต ใครที่จะเป็นรัฐบาลก็สามารถเดินหน้าต่อไป” สิริพงศ์ กล่าว