วันนี้ (17 กรกฎาคม) ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวก่อนเข้าประชุมร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยที่ตึกไทยซัมมิทว่า คาดว่าการประชุมวันนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี และมีการหารือเรื่องเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งที่ 2 รวมถึงเรื่องการยกเลิกมาตรา 272 ที่พรรคก้าวไกลได้ยื่นไปก่อนหน้านี้ โดยจะขอเสียงสนับสนุนจาก 8 พรรคร่วม พร้อมทั้งไม่กังวลกับการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 เราได้ทำตามสิ่งที่ได้ให้สัญญากับประชาชนไว้ หากประชาชนยังไม่ถอย เราก็ยังไม่ถอย และคิดว่าจะเสนอชื่อพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบตามที่เราได้แจ้งไว้กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เทียบเชิญพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล โดยระบุว่า ได้รับการทาบทามจากแกนนำพรรคก้าวไกล ศิริกัญญากล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครคือผู้ที่ให้เสรีพิศุทธ์ไปเชิญ แต่หากได้เสียงจากทั้งสองพรรค ก็จะได้จำนวนเสียงที่มากขึ้น ส่วนเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์และชาติไทยพัฒนาระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่แก้ไขมาตรา 112 นั้น หากเป็นเงื่อนไขดังกล่าวก็คงไม่ได้ร่วมรัฐบาลที่มีก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การหารือระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยในวันนี้จะราบรื่นหรือไม่ ศิริกัญญากล่าวว่า จะต้องราบรื่นและเป็นไปตามที่เราได้คาดหวังไว้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ยังยืนยันในจำนวนเสียง ส.ว. หรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการทราบจำนวน มีจำนวนตัวเลขที่ชัดเจนหรือไม่ ศิริกัญญากล่าวว่า เรื่องนี้เรามีการสื่อสารด้วยกันมาโดยตลอดว่า ทางพรรคก้าวไกลจะติดต่อท่านไหน และพรรคเพื่อไทยจะช่วยติดต่อคือท่านไหน เรามีการพูดคุยกันมาโดยตลอด ซึ่งการโหวตในรอบนี้จากที่มีการทำงานกันมา คาดว่าจะได้คะแนนเสียงเพิ่มเติมจากจำนวน ส.ว. ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนั้น
ศิริกัญญากล่าวว่า เราไม่มีความกังวลใดๆ เราสัญญากับประชาชนไว้ทั้งสมรภูมิสองรูปแบบ เราจะสู้อย่างเต็มที่เพื่อเสนอพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมคาดหวังว่า จากสิ่งที่เราได้ทำแคมเปญเปลี่ยนใจ ส.ว. ให้มายืนเคียงข้างประชาชน ก็คิดว่าเราจะได้คะแนนเสียงเพิ่ม หากสมรภูมิทั้งสองรูปแบบยังไม่เป็นผล เราก็จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการกำหนดระยะเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ศิริกัญญากล่าวว่า ตามไทม์ไลน์แล้วขึ้นอยู่กับประธานสภาที่จะบรรจุวาระมาตรา 272 ซึ่งคาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า โดยตามระเบียบแล้วต้องเอาเข้าภายใน 15 วันอยู่แล้ว จึงคาดว่าจะจบภายในสัปดาห์หน้าและทราบทิศทางต่อไปอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยไม่พอใจกับการแก้ไขมาตรา 272 พร้อมมองว่า ‘เป็นการมัดมือชก’ จะมีการหารือภายในวันนี้ด้วยหรือไม่ ศิริกัญญากล่าวว่า จะมีการหารือถึงประเด็นมาตรา 272 ในวันนี้ด้วย โดยจะพูดคุยทำความเข้าใจ พร้อมยืนยันว่า การแก้ไขมาตรา 272 ไม่ได้เป็นการมัดมือชกใดๆ พร้อมทั้งคิดว่าจะเป็นการทำภารกิจนี้ร่วมกันทั้ง 8 พรรค
โดยผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่เป็นการยืดเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ ศิริกัญญายืนยันว่า ไม่ได้เป็นการยืดเวลาอย่างแน่นอน ซึ่งจะทราบผลในสัปดาห์หน้า หากผ่านสามารถดำเนินการว่าระที่ 2 และวาระที่ 3 แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ และไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นการยืดระยะเวลาไปไกล ในสมัยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดตั้งรัฐบาลและนำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตนจากวันที่มีการเลือกตั้งใช้เวลาทั้งสิ้น 7 สัปดาห์ หากเราต้องการใช้เวลาแก้ไขมาตรา 272 ภายใน 2-3 สัปดาห์ ซึ่งไม่ใช่การยืดเวลาแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความมั่นใจหรือไม่ว่าการแก้ไขมาตรา 272 จะเป็นทางออกของพรรคก้าวไกล ศิริกัญญากล่าวว่า เราเห็นใจ ส.ว. หลายท่าน โดยเราทราบดีว่ามีกระบวนการที่จะไม่ให้บุคคลเหล่านั้นมาโหวตให้กับพิธา อย่างเช่น การถูกขู่เอาชีวิต โดยคิดว่านี่คือทางออกที่หลายฝ่ายสบายใจ รวมถึง ส.ว. ด้วยที่อยากจะปิดสวิตช์ตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเข้าใจในเรื่องสัดส่วนในการแก้ไขมาตรา 272 ต้องใช้เสียงจากฝ่ายค้าน ศิริกัญญากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการโหวตที่อยู่ในขั้นที่ 3 ที่จะต้องใช้คะแนนเสียงจากฝ่ายค้าน ซึ่งเราได้มีการคำนวณแล้ว คิดว่าน่าจะผ่านถึงวาระที่ 3 ได้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เหตุใดพรรคก้าวไกลจึงไม่ถอยการแก้ไขมาตรา 112 แทนที่จะมาเดินหน้าแก้ไขมาตรา 272 ศิริกัญญากล่าวว่า เป็นสิ่งที่เราได้สัญญากับประชาชนผ่านการหาเสียงเลือกตั้ง และเราก็คิดว่าการแก้ไขมาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้างที่จะไม่โหวตให้กับพรรคก้าวไกล ถึงแม้ว่าเราจะยอมถอย เสียสัจจะที่ได้ให้ไว้กับประชาชน ก็ไม่ได้เป็นข้ออ้างที่จะทำให้ ส.ว. โหวตให้เราอย่างแน่นอน ดังนั้นเราขอเลือกที่จะไม่เสียสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กังวลต่อกรณีที่ระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ยาวใช่หรือไม่ ศิริกัญญากล่าวว่า ไม่ถึงขั้นนั้น เพราะไม่ได้ใช้ระยะเวลาเป็นปี อย่างมากแค่ 3 สัปดาห์ ซึ่งยังอยู่ในวิสัยที่เราสามารถจัดการได้อย่างแน่นอน โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้าโพล) ได้มีการเผยแพร่อย่างชัดเจนว่า ประชาชนอยากให้โหวตให้กับพิธาไปเรื่อยๆ
