วันนี้ (5 มกราคม) ศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวสรุปการอภิปรายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยระบุว่า ตนรู้สึกเสียใจที่ได้เปิดประเด็นการประมาณการตัวเลข GDP ที่ 5.4% ในการอภิปรายงบประมาณฯ เมื่อวานนี้ จนกลบคำถามสำคัญที่รัฐมนตรีจะต้องตอบ สำหรับอัตราการขยายตัวของ GDP ยืนยันว่าไม่มีใครใช้อัตราการเติบโตของ GDP ที่รวมเงินเฟ้อมาเป็นตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจ หากรัฐมนตรีสามารถยอมรับจุดนี้ได้ก็จะไม่มีการโต้เถียงกันถึง 2 วันอย่างเช่นตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเฝ้ารอคำตอบเกี่ยวกับการตั้งงบบำเหน็จบำนาญไว้ไม่เพียงพอต่อการจ่ายในปี 2567 รวมถึงการไม่ได้ตั้งงบประมาณเผื่อสำหรับการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร จะต้องใช้งบกลางหรือใช้เงินคงคลังมาจ่ายแทน
ส่วนการประมาณการรายได้ที่สูงเกินจริง ศิริกัญญากล่าวว่า ทั้งที่มีภาษี 4 ตัวที่หายไป ทั้งภาษีขายหุ้น การลดหย่อนกองทุน TESG รายได้ที่หายไปจากการนำส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการลดหย่อนภาษีน้ำมันดีเซล-เบนซิน ทำให้ประมาณการรายได้ลดลง รัฐบาลจะหาเงินจากที่ไหนมาชดเชย
ศิริกัญญากล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหนี้ตามมาตรา 28 ซึ่งถูกซุกซ่อนอยู่ในการดำเนินโครงการต่างๆ แม้จะไม่ใช่หนี้สาธารณะ แต่ก็ถือเป็นหนี้ที่ประชาชนจะต้องรับผิดชอบผ่านการจ่ายภาษี จึงอยากให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลว่าหนี้ในส่วนนี้มีอยู่เท่าไร ต้องจ่ายอีกกี่ปี เพราะเท่าที่ทราบตอนนี้หนี้ดังกล่าวเกิน 1 ล้านล้านบาทแล้ว
นอกจากนี้ยังมีวิกฤตความมั่นคง โดยเฉพาะในสัดส่วนของงบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่ยังไม่ปรับลดลง แต่เพิ่มขึ้นอีก 2% แม้ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะบอกว่ากระทรวงของบไปมากกว่านี้ แต่สำนักงบประมาณจัดสรรให้เพียงเท่านี้ จึงเป็นการตอบเรื่องดาวน์น้อยผ่อนนาน แสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการดาวน์มากกว่านี้ถึง 20% แต่สำนักงบประมาณตัดงบไป
ขณะที่เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ สุทินก็ยอมรับว่า เราเป็นผู้ถือสัญญา แต่ตนขอยืนยันว่าไทยไม่ได้ผิดสัญญาจะซื้อเรือดำน้ำ แต่ในช่วงวิกฤตโควิดที่ใครไม่ได้จ่ายเงินค่าจัดซื้อเรือดำน้ำได้ เป็นเพราะจีนไม่สามารถต่อเรือเสร็จตามกำหนดงวดงานได้ แบบนี้จึงไม่ถือเป็นการผิดสัญญา ซึ่งในสัญญามีการกำหนดค่าปรับในกรณีส่งมอบล่าช้าไว้
พร้อมกันนี้ศิริกัญญายังกล่าวถึงโครงการแลนด์บริดจ์ที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่ามีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการไม่มีเรื่องของท่อน้ำมันอยู่
ดังนั้นการจะไปหานักลงทุนมาดำเนินการขนถ่ายน้ำมันข้ามมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกคงผิดฝาผิดตัว หรืออาจต้องรื้อรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ที่ลงทุนไปแล้ว 68 ล้านบาท ต้องปรับเปลี่ยนแผนในการจัดทำผลประเมินผลกระทบจาก BIA เป็น EHIA ซึ่งก็จะไม่ตรงกับสิ่งที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการแถลงมติว่าจะลงมติอย่างไรกับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ปี 2567 จึงยังมีเวลาที่จะเปลี่ยนใจ ขอให้ใช้เวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงตอบคำถามเหล่านี้ให้ครบถ้วนและกระจ่างว่าจะแก้ไขปัญหาให้ประเทศพ้นวิกฤตผ่านงบประมาณปี 2567 ได้อย่างไร ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐาได้มอบหมายให้ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงเกี่ยวกับงบประมาณและเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าน่าผิดหวัง เพราะตนคาดหวังว่าเศรษฐาจะมาตอบด้วยตนเองมากกว่า
