ก่อนหน้าที่จะถึงเกมยูฟ่ายูโรปาลีกนัดสำคัญกับบาร์เซโลนา และเกมนัดชิงลีกคัพ ซึ่งเป็นโอกาสที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะคว้าแชมป์รายการแรกในรอบเกือบ 7 ปี โดยจะลงสนามพบกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สุดสัปดาห์นี้ ได้ปรากฏภาพการพบกันระหว่าง เอริก เทน ฮาก และ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ภาพดังกล่าวสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก นอกจากจะเป็นภาพที่น่าประทับใจสำหรับ Red Army ที่แทบไม่ได้เห็นภาพที่ชวนสร้างความรู้สึกดีๆ แบบนี้มายาวนานเกือบ 10 ปี มันยังชวนให้ขบคิดกันต่อ
การพบกันครั้งนี้ของทั้งสองมีความหมายอะไรพิเศษที่ซ่อนอยู่หรือเปล่า?
เพราะถึงเซอร์อเล็กซ์จะไม่เคยห่างหายจากแมนฯ ยูไนเต็ด และโอลด์แทรฟฟอร์ดเลย ยังคงมี ‘บทบาท’ กับสโมสรอยู่เบื้องหลัง แต่การปรากฏตัวของอดีตผู้จัดการทีมผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลในวัย 81 ปีทุกครั้งหมายถึงมีเรื่องสำคัญเสมอ
ปีนี้ยังเป็นโอกาสครบรอบ 10 ปีที่เฟอร์กีตัดสินใจวางมือจากการเป็นผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากที่คุมทีมมาตั้งแต่ปี 1986
เช่นนั้นเองที่ทำให้หลายคนจับตาการพบกันของท่านเซอร์กับผู้จัดการทีมคนปัจจุบันที่นำแมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง และกำลังจะลงสนามในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
เพียงแต่ในเรื่องนี้ดูเหมือนเราไม่จำเป็นต้องเดาใจ เพราะผู้จัดการทีมชาวดัตช์ออกมาเปิดเผยด้วยตัวเองเลยทีเดียวถึงการพบกันที่ ‘Cibo’ ร้านอาหารในย่านวิล์มสโลว์ ซึ่งเป็นย่านที่บ้านของบรมกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดตั้งอยู่
เทน ฮาก เล่าถึงการพบกันครั้งนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ
“มันเป็นการพบกันที่ดีมากๆ” กุนซือชาวดัตช์กล่าว “ผมชอบพูดคุยกับคนที่มีความรู้และมีประสบการณ์มากมายอยู่แล้ว”
แน่นอนว่ากุนซือชาวดัตช์ไม่ได้เล่ารายละเอียดถึงสิ่งที่ทั้งสองพูดคุยกันในมื้ออาหารค่ำ ซึ่งแน่นอนอีกเช่นกันว่าในมือของทั้งคู่มีแก้วไวน์
ไวน์เป็นเครื่องดื่มโปรดของบรมกุนซือชาวสกอตแลนด์ ที่เมื่อครั้งยังคุมทีมอยู่ก็มักจะเชื้อเชิญใครต่อใครให้มานั่งดื่มไวน์ด้วยกันเสมอเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจหน้าที่การงาน
สิ่งที่กุนซือชาวดัตช์เล่าได้คือ ชายผู้เป็นมหาบุรุษของแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการที่จะ ‘แบ่งปัน’ และ ‘ช่วยเหลือ’ เขากับทีม
“เขามีสิ่งที่อยากจะแบ่งปัน เขาอยากช่วยและเป็นกำลังสนับสนุนให้
“เขารู้สึกว่าแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรของเขา และเขายังรู้สึกตั้งใจอยู่เหมือนเดิม”
เมื่อคิดถึงการที่แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งในเวลานี้ยังมีลุ้นแชมป์ครบทั้ง 4 รายการ แม้ว่าหนึ่งในนั้นคือยูโรปาลีก ในทางฟุตบอลจะไม่ถือว่ามีศักดิ์และสิทธิ์สูงสุด แต่สำหรับสโมสรที่เผชิญช่วงเวลามืดมนอนธการมายาวนาน แชมป์สักรายการจะเล็กหรือใหญ่ก็ถือว่ามีความหมาย
คืนนี้แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพบกับบาร์เซโลนา จ่าฝูงลาลีกา ทีมที่เคยฝากรอยแค้นเอาไว้กับเฟอร์กีมาก่อนในนัดชิงแชมเปียนส์ลีกสองครั้งหลังสุดของสโมสรในปี 2009 และ 2011
แต่ก่อนหน้านั้นเฟอร์กีก็เคยพาทีมพิชิตบาร์ซามาแล้วในนัดชิงยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ ถ้วยในอดีตที่จะนำแชมป์ฟุตบอลถ้วยของแต่ละประเทศมาแข่งขันกัน และเคยสยบบาร์ซาในยุคเริ่มแรกของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ในรอบรองชนะเลิศปี 2008
องค์ความรู้จากวันนั้นอาจจะเป็นเรื่องเก่า แต่ไม่เก่าเกินไปที่จะไร้ซึ่งความหมาย
หลังจากนี้คือเกมนัดชิงลีกคัพกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย จะเป็นเกมที่ทีมของเทน ฮาก ต้องสู้เต็มที่แน่นอน
เพราะถึงนิวคาสเซิลจะเริ่มประสบปัญหาฟอร์มตก และยังขาด นิค โป๊ป ผู้รักษาประตูมือหนึ่งที่โดนแบนจากใบแดงสุดทะเล่อทะล่าในเกมกับลิเวอร์พูล (โดยคนที่จะลงเฝ้าเสาแทนคือ ลอริส คาริอุส อดีตนายทวารหงส์แดงผู้ชีวิตพังพาบหลังนัดชิงแชมเปียนส์ลีกปี 2018) แต่แม็กพายส์คือหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของอังกฤษในเวลานี้
ทีมอาจจำเป็นที่จะต้องการ ‘ขวัญ’ และ ‘กำลังใจ’ ที่พิเศษกว่าปกติ
และนั่นคือสิ่งที่ชายวัย 81 ปีคนนี้ยังพอจะทำให้ได้
ผ่านแก้วไวน์และมื้อค่ำธรรมดาที่ไม่ธรรมดา และบทสนทนาที่เป็นความลับระหว่างชายผู้มาเพื่อกอบกู้สโมสรเหมือนกัน ต่างกันแค่ยุคสมัยและวันเวลา
อ้างอิง: