สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์ได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 2/2563 หดตัวมากถึง 41.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2563 ที่หดตัว 0.7% หรือหดตัว 12.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการหดตัวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของสิงคโปร์ หลังเศรษฐกิจเผชิญกับการชะลอตัวอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ GDP ของสิงคโปร์หดตัวอย่างมากในไตรมาสที่ 2 นั้นเป็นผลมาจากการที่ธุรกิจภายในประเทศปิดตัวชั่วคราวจากมาตรการเซอร์กิต เบรกเกอร์ ส่งผลให้การใช้จ่ายภายในประเทศลดลง รวมถึงการชะลอตัวของการค้าทั่วโลกที่ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมการผลิตของสิงคโปร์
ทำให้ตัวเลขการผลิตในไตรมาสที่ 2 ลดลง 23.1% ซึ่งสวนทางกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 45.5% ขณะที่ภาคการบริการลดลง 37.7%
ทั้งนี้ ตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์ได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุด แม้มีแนวโน้มการฟื้นตัวหลังภาคธุรกิจกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ชาน ชุนซิง รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ กล่าวว่า จากตัวเลข GDP ที่หดตัวลงอย่างมาก ได้ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ท้าทาย คาดว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ และไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกยังคงอ่อนแอ หลังประเทศต่างๆ กำลังต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 และมีหลายประเทศเผชิญความเสี่ยงที่จะพบการระบาดในรอบที่ 2
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของสิงคโปร์ได้ชะลอตัวมาตั้งแต่ปี 2562 หลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ก่อนที่จะชะลอตัวอย่างรุนแรง หลังเผชิญการระบาดของโควิด-19 โดยรัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว 4 ฉบับ และใช้งบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงเงินสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (7.04 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปีนี้
รายงาน: ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ
เรียบเรียง: ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล