ทางการสิงคโปร์สั่งประหารชีวิตชายคนหนึ่งในช่วงเช้าวันนี้ (26 เมษายน) จากความผิดฐานพยายามลักลอบค้ากัญชาน้ำหนักมากกว่า 1 กิโลกรัม ส่งผลให้กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนและนักเคลื่อนไหวออกมาประณามคำตัดสินใจดังกล่าว ท่ามกลางช่วงเวลาที่ชาติอื่นๆ ได้พยายามหาแนวทางในการผ่อนปรนโทษประหารมากขึ้น
แม้ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกจะเปิดให้สามารถใช้งานกัญชาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่สิงคโปร์ยังคงมีคำสั่งห้ามใช้งานกัญชาและมีกฎหมายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวด โดยรัฐบาลสิงคโปร์ยืนยันที่จะใช้โทษประหารเพื่อปราบผู้ค้ายาเสพติด และรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในประเทศ
ครอบครัวของนักโทษที่ถูกประหารชีวิตเปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ว่า ตังการาจู ซุปเปียห์ (Tangaraju Suppiah) ชาวสิงคโปร์วัย 46 ปี ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ณ เรือนจำชางงี และครอบครัวได้รับใบมรณบัตรของเขาแล้ว ซึ่งซุปเปียห์นับเป็นผู้ที่รับโทษประหารรายแรกในรอบ 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม คำตัดสินที่ออกมานั้นได้เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) มหาเศรษฐีชาวอังกฤษซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านโทษประหารชีวิต กล่าวว่า คำตัดสินของซุปเปียห์ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของความผิดทางอาญา เนื่องจากเขาไม่ได้อยู่ใกล้ยาเสพติดเมื่อเขาถูกจับกุม โดยตามคำแถลงของหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดสิงคโปร์ (CNB) ระบุว่า ศาลพบว่าเขาโทรศัพท์พูดคุยกับชายอีก 2 คนที่ถูกจับได้ว่าพยายามลักลอบนำกัญชาเข้ามาในสิงคโปร์
ในภายหลังรัฐบาลของสิงคโปร์ได้ออกมาโต้ว่า คำกล่าวของแบรนสันไม่เป็นความจริงและถือว่าไม่เคารพต่อกระบวนการยุติธรรมของสิงคโปร์ พร้อมเสริมว่าศาลใช้เวลากว่า 3 ปีในการพิจารณาคดีนี้อย่างถี่ถ้วน
ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีมาตรการปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดมากที่สุดในโลก โดยเมื่อปีที่ผ่านมาได้สั่งประหารชีวิตนักโทษไปทั้งสิ้น 11 คน พร้อมยืนยันว่าโทษประหารชีวิตถือเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้มีการซื้อขายยาเสพติดในประเทศ อีกทั้งประชาชนส่วนใหญ่ก็สนับสนุนนโยบายนี้ด้วย
ภาพ: Dmytro Tyshchenko via Shutterstock
อ้างอิง:
