แบงก์ชาติสิงคโปร์และฟิลิปปินส์จัดประชุมนัดพิเศษ เร่งทำนโยบายการเงินตึงตัวสกัดเงินเฟ้อ

ธนาคารกลางสิงคโปร์และฟิลิปปินส์สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการปรับนโยบายการเงินให้เข้มข้นขึ้นในการประชุมนอกรอบ เพื่อรับมือกับความเสี่ยงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงแรงกดดันที่สูงขึ้นจากเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาที่ออกมาสูงกว่าคาด จนมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยถึง 1% ในการประชุมปลายเดือนนี้

ในช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (14 กรกฎาคม) ธนาคารกลางสิงคโปร์ซึ่งใช้การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเครื่องมือนโยบายหลัก ได้อนุญาตให้สกุลเงินท้องถิ่นแข็งค่าขึ้นโดยปรับจุดกึ่งกลางของแถบนโยบายให้อยู่ในระดับทั่วไป ขณะเดียวกันยังมีการปรับประมาณการเงินเฟ้อในปีนี้เพิ่มขึ้น โดยประเมินว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะเพิ่มขึ้นจาก 2.5-3.5% เป็น 3-4% ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้นจาก 4.5-5.5% เป็น 5-6%

การปรับนโยบายของแบงก์ชาติสิงคโปร์เกิดขึ้นหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสิงคโปร์ เช่น การค้าปลีกและกิจกรรมการขนส่งในช่วงไตรมาส 2 หดตัวลงจากตัวเลขในไตรมาสแรกของปี ในขณะที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง โดยล่าสุดเงินสกุลดอลลาร์สิงคโปร์ได้แข็งค่าขึ้นราว 0.7% มาอยู่ที่ระดับ 1.3957 ต่อดอลลาร์สหรัฐ

“เมื่อรวมการปรับนโยบายการเงินให้ตึงตัวขึ้นในครั้งนี้กับครั้งที่ผ่านๆ มา น่าจะช่วยทำให้เงินเฟ้อมีโมเมนตัมที่ช้าลง และช่วยให้ราคาในระยะปานกลางมีเสถียรภาพมากขึ้น” แถลงการณ์ของธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุ

ตามกำหนดการธนาคารกลางสิงคโปร์จะประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินปีละ 2 ครั้ง ในเดือนเมษายนและตุลาคม ทำให้การประชุมเพื่อปรับนโยบายในรอบนี้ถือเป็นการประชุมนัดพิเศษครั้งที่ 2 ของปี หลังจากในเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมนอกรอบไปแล้วหนึ่งครั้ง

ในเวลาใกล้เคียงกัน ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ได้มีการจัดประชุมนอกรอบ และประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 3.25%

วานนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.75% เป็น 2.25% เช่นกัน โดยถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เกาหลีใต้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึงสามครั้งในปีเดียว

แถลงการณ์ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า การใช้นโยบายเชิงรุกเพื่อป้องกันเงินเฟ้อสูงมีความสำคัญมากไปอีกระยะหนึ่ง ในช่วงที่เงินเฟ้อสูงต่อเนื่องและขยายวงมากขึ้น

ธนาคารกลางเกาหลีใต้เริ่มใช้นโยบายการเงินตึงตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% มานานกว่า 1 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงการแพร่ระบาดของโควิด

ล่าสุดมีการคาดการณ์ว่า GDP ของเกาหลีใต้ในปีนี้จะเติบโตต่ำกว่า 2.7% เนื่องจากการส่งออกได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH