วันนี้ (7 ตุลาคม) สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับหน้าที่ในการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับ MOU ปี 2543 และ 2544 ว่า ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศพยายามที่จะให้ข้อมูลกับประชาชนให้มากที่สุด ต้องให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่จะทำให้ประชาชนรู้ว่าวิธีการจะเป็นอย่างไร รูปแบบจะเป็นแบบใด ส่วนการทำประชามติจะทำรูปแบบใดต้องพูดคุยกัน ขอเวลาให้เราได้คุยกัน เพราะขณะนี้ไม่ใช่แค่นโยบายของกระทรวงการต่างประเทศ แต่เป็นนโยบายของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีจะมีการทำประชามติยกเลิก MOU แต่ยังไม่มีมีการอธิบายข้อดีข้อเสียของ MOU สีหศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดถึงการยกเลิก และขณะนี้คณะกรรมาธิการในสภากำลังพิจารณาอยู่ โดยจะต้องนำผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการมาประกอบการพิจารณาด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างต้องทำด้วยความรอบคอบ เพราะเป็นผลประโยชน์ของประเทศ และถ้าจะให้ประชาชนมีส่วนในการตัดสินใจก็จะต้องทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลมากที่สุด
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ระบุจะถามความเห็นประชาชน สีหศักดิ์กล่าวว่า ควรจะต้องถามความเห็นของประชาชน เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนสนใจ และมีผลต่อผลประโยชน์ของประเทศ เราอยากให้เป็นสังคมประชาธิปไตย ย้ำว่าเราอยากให้ประชาชนตัดสินใจบนข้อมูลที่มากที่สุด แต่ตอนนี้ขอให้เราพิจารณากันให้รอบคอบก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการหารือกับทางกองทัพหรือไม่ ว่า MOU ทั้งสองฉบับยังมีความจำเป็น สีหศักดิ์กล่าวว่า คงไม่ใช่แค่กองทัพอย่างเดียว แต่กระทรวงการต่างประเทศต้องดูในข้อกฎหมายด้วย ต้องคุยกันในแต่ละฝ่าย ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้องตัดสินใจแบบรีบเร่ง ต้องมานั่งคุยให้รอบคอบ
ส่วนกรณีนอร์เวย์ให้งบสนับสนุนในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดแก่กัมพูชา แต่กัมพูชาไม่ได้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิด สีหศักดิ์กล่าวว่า เราก็อยากจะช่วยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ก็เป็นผลประโยชน์ ตนยังไม่ทราบในรายละเอียด แต่การให้เงินอะไรก็ตามในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดมันก็เป็นประโยชน์ ซึ่งทางนอร์เวย์ก็ได้แจ้งตนมาเหมือนกันว่าอยากให้เงินสนับสนุน