SHR โชว์ผลประกอบการปี 2565 กวาดรายได้ทะลุเป้า 8,693 ล้านบาท เดินหน้าปั้นแบรนด์ SAii เสริมแกร่งพอร์ตโฟลิโอ พร้อมเปิดตัวโรงแรมในมัลดีฟส์ในปี 2566 หวังรองรับท่องเที่ยวฟื้น-ดันรายได้โตต่อเนื่อง
เดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท หรือ ‘SHR’ ฉายภาพว่า หลังจากโควิดคลี่คลายลงหลายๆ ประเทศยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางทั่วโลก ทำให้การท่องเที่ยวทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่ครองส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่าได้สร้างอานิสงส์ให้กับภาพรวมธุรกิจ SHR ที่มีนักท่องเที่ยวจีนครองส่วนแบ่งตลาดในโรงแรมมัลดีฟส์ 20% และประเทศไทย 10%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘สิงห์ เอสเตท’ ปิดโรงแรมชั่วคราวในไทย มัลดีฟส์ ฟิจิ มอริเชียส และสหราชอาณาจักร ยันไม่ปลดพนักงาน
- SHR เข้าเทรดวันแรก พร้อมเผยผลงาน 9 เดือน รายได้โต 66% แต่งบ ขาดทุนเกือบ 300 ล้าน
- ตลท. ขยายกรอบ ‘Ceiling & Floor’ ใหม่ให้สอดคล้องกับตลาดหุ้นนอก พร้อมประกาศเพิ่มเครื่องหมาย P เตือนหุ้นที่ซื้อขายผิดปกติ เริ่มมีผลใช้ใน 1Q66
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทมุ่งให้ความสำคัญกับกลยุทธ์บริหาร RevPAR ให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ พร้อมเดินหน้าปั้นแบรนด์ SAii ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวโรงแรม SO/ Maldives ในมัลดีฟส์ ซึ่งถือเป็นรีสอร์ตแห่งที่ 3 ของโครงการ CROSSROADS โดยเตรียมเปิดให้บริการในปี 2566 และเชื่อว่าจะเป็นตัวผลักดัน ทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตขึ้นต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความสามารถ ในแง่การสร้างรายได้และกำไรให้กับสินทรัพย์ โดยตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 20% ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรและสร้างฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง รวมถึงการใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทฯ เพื่อโอกาสในการขยายการลงทุนผ่านการเข้าซื้อและเข้าบริหารจัดการสินทรัพย์ใหม่ในอนาคตและการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
สำหรับผลประกอบการในปี 2565 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 8,693 ล้านบาท เติบโตขึ้นเกือบ 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของโรงแรมที่บริษัทฯ ลงทุน โดยเฉพาะโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ ตามด้วยโรงแรมสหราชอาณาจักร ที่เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ตลอดจนการปรับกลยุทธ์บริหารพอร์ตโฟลิโอให้มีประสิทธิภาพ ร่วมกับการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มช่องทางการจองที่พักโรงแรมโดยตรง ควบคู่กับการปรับปรุงห้องพัก พร้อมปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้นกว่า 28% จากปีก่อนหน้า
โดยเฉพาะไตรมาส 4 นับเป็นไตรมาสที่สร้างรายได้มากสุดของปี เติบโตขึ้น 17% จากไตรมาส 4 ของปี 2562 สะท้อนได้ถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการเข้าสู่ช่วง Peak Season ของการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน และยังผลักดันให้ระดับ RevPAR สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด ทั้งโรงแรมในประเทศไทยและสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ที่มีอัตราการเข้าพักสูงกว่า 90% ในเดือนมกราคม 2566 และคาดว่าจะรักษาโมเมนตัมที่ดีได้ตลอดในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ซึ่งจะหนุนให้รายได้รวมของทั้งสองพอร์ตโฟลิโอหลักนี้เติบโตราว 30%
หากเจาะลึกลงมาถึงโรงแรมทั้ง 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS มีจุดแข็งที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม โดยโรงแรมสหราชอาณาจักรสามารถเพิ่ม Occupancy Rate ได้ 10% และ ADR เพิ่มขึ้น 8% ถ้าเทียบกับปี 2564 ทำให้มีรายได้ต่อห้องพักต่อคืน (RevPAR) ที่ 48 ปอนด์ ฟื้นตัวขึ้นไปสูงกว่าปีก่อนเกิดโควิด
ขณะที่ธุรกิจโรงแรมในไทยเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในช่วงปลายปี 2565 เนื่องจากมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ Occupancy Rate ฟื้นตัวมาที่ 57% ทั้งนี้จากการปรับโครงสร้างธุรกิจ รวมไปถึงผลตอบรับที่ดีในการปรับใช้แนวคิดแบรนด์ทราย (SAii) มาสู่โรงแรมที่บริษัทฯ บริหารงานเอง ส่งผลให้ ADR ปรับเพิ่มขึ้นได้ถึง 67% จากปีก่อนหน้า