“หนูรู้ไหมว่า สุนัขมีชีวิตอยู่ได้แค่ 10 หรือ 15 ปี เท่านั้นนะ”
แค่ได้ยินประโยคสั้นๆ จากตัวอย่าง เราก็พอจะเดาได้แล้วว่า Show Me The Way to The Station ที่ตรงนั้นฉันจะรอเธอ ภาพยนตร์จากแดนปลาดิบเรื่องนี้ สร้างมาเพื่อเรียกน้ำตาให้กับผู้ชมคนรักสุนัขโดยเฉพาะ
แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้หลังดูจบคือ Show Me The Way to The Station พาเราไปไกลกว่านั้น เพราะนำเสนอเรื่องราว ‘ความสัมพันธ์’ ของ ‘สิ่งมีชีวิต’ และทำงานกับหัวใจของผู้ชมทั้งหมด ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนรักสัตว์อย่างเดียวเท่านั้น
Show Me The Way to The Station ว่าด้วยเรื่องราวของ ซายากะ (ชิเสะ นิอิตสึ) สาวน้อยวัย 8 ขวบ ที่มักจะถูกเพื่อนๆ แกล้งอยู่เป็นประจำ แต่โชคดีที่เธอยังมี ลู สุนัขชิบะตัวน้อยคอยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ
กระทั่งวันหนึ่ง ลูจากโลกนี้ไป ซายากะต้องกลับมาอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพังอีกครั้ง นำไปสู่เหตุการณ์ที่ทำให้เธอได้เจอกับ ฟุเสะ (โยชิ โออิดะ) ลุงเจ้าของร้านกาแฟที่สูญเสียลูกชายไปตั้งแต่ยังเด็ก แต่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยความหวังที่ว่า สักวันหนึ่งลูกชายของเขาจะกลับมา
กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กน้อยที่สูญเสียสุนัขและคุณลุงที่สูญเสียลูกชาย ออกเดินทางเพื่อตามหาผู้ลาลับที่ดูเหมือน ‘ไม่มีทางเป็นไปได้’ ร่วมกัน
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรียกน้ำตาให้กับคนดูได้มากที่สุดเลย ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กน้อย สุนัข และคุณลุงร้านกาแฟ แต่เป็นความทรงจำร่วมที่เราทุกคนล้วนเคย ‘สูญเสีย’ อะไรบางอย่างไม่ต่างกัน
โดยมีความ ‘น่ารัก’ ของนักแสดงอย่าง ชิเสะ นิอิตสึ (ลูกสาวของ มาโกโตะ ชินไค ผู้กำกับแอนิเมชันเรื่อง Your Name) และเจ้าลู สุนัขที่เคมีเข้ากันดีมากๆ ในทุกๆ ฉากที่เข้าเฟรมร่วมกัน จนเรารู้สึกอยากหาสุนัขชิบะมาเป็นเพื่อนคู่ใจทันทีที่เดินออกจากโรงภาพยนตร์
ต้องชื่นชมการวางแผนเตรียมตัวก่อนถ่ายทำของทีมงาน ที่ให้ชิเสะพาลูไปอยู่ด้วยกันเป็นเวลาครึ่งปี จนสามารถสร้างสายสัมพันธ์จนเราเชื่อได้ว่า ทั้งคู่คือเพื่อนรักที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานาน โดยเฉพาะสายตาเวลาที่ลูมองกลับมาที่เด็กสาว เรารู้สึกได้ว่า เจ้าสัตว์สี่ขาตัวนี้มีความรักให้กับหนูน้อยคนนี้จริงๆ
รวมทั้งเคมีของนักแสดงต่างรุ่นระหว่าง ชิเสะ และ โยชิ โออิดะ ที่ต้องออกเดินทาง ใช้ชีวิต ตามหาสิ่งที่หายไปรวมกัน ก็เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ ระหว่างความน่ารักกับคุณลุงที่อบอุ่นไปหมดทุกอย่าง ทั้งสีหน้า รอยยิ้ม น้ำเสียง น่าทาง ที่กลายเป็นคนโอบอุ้มเด็กน้อยคนนี้เอาไว้ได้ตลอดทั้งเรื่อง
องค์ประกอบของสองนักแสดงหลักทำหน้าที่บิลด์อารมณ์และเน้นประเด็นสำคัญของเรื่องที่ว่า ‘สิ่งมีชีวิต’ ทุกอย่างที่มีความสัมพันธ์ต่อกัน ล้วนมีจุดหมายปลายทางเดียวกันว่า สุดท้ายต้องจากกันไม่วันใดก็วันหนึ่ง และไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
สิ่งที่เราพอทำได้ ไม่ใช่ยื้อยุดฉุดชีวิตให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้ตลอดกาล แต่เป็นการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างทางเอาไว้ให้มากที่สุด เหมือนที่ชิเสะพยายามรักลูมาตลอดตั้งแต่วันแรก จนวันที่ต้องจากกัน และในขณะเดียวกันก็พยายามสานความสัมพันธ์กับคุณลุงร้านกาแฟ ที่มาช่วยแบ่งปันและปลอบประโลมหัวใจที่แสนเศร้าซึ่งกันและกัน
เพราะสุดท้าย เมื่อใครสักคนหนึ่งต้องบอกลาจากกันไป แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ ‘ความทรงจำ’ ที่อบอุ่น สวยงาม และประทับใจไม่มีวันหายไปไหน
เหมือนกับสายจูงของซายากะที่เชื่อมโยงเธอกับเจ้าสุนัขชิบะสีขาวให้อยู่เคียงข้างกันในความทรงจำลึกที่สุดของหัวใจไปตลอดกาล
สามารถรับชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=xdUCmIL1HyM
ติดตามบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่
- ‘เธอสบายดีไหม ส่วนฉันสบายดี’ Last Letter จดหมายรักฉบับสุดท้ายของผู้กำกับ อิวาอิ ชุนจิ
- Every Day, A Good Day เรียบง่าย งดงาม และความหมายของชีวิต
ภาพ: sahamongkolfilm.com/saha-news/show-way-station-warm-jap-movie
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล