แม้จะอายุเพียง 19 ปีและอยู่ในวงการมาแค่ 4 ปี แต่นักร้องหนุ่ม ชอว์น เมนเดส (Shawn Mendes) ก็ได้ปล่อยอัลบั้มชุดที่ 3 Shawn Mendes ที่ต้องพูดว่าเป็นอีกก้าวสำคัญในฐานะศิลปินของเขา เพราะเราได้เห็นการเติบโตทั้งในเรื่องของมุมมองเนื้อเพลง แนวเพลงต่างๆ ที่นำมาผสมผสานอย่างลงตัว และการทำให้คนฟังเข้าใจมากขึ้นว่าเขาคือใคร
สำหรับทั้งหมด 14 เพลงในอัลบั้ม Shawn Mendes เราได้เห็นนักร้องหนุ่มชาวแคนาดาทลายกำแพงที่เขามีในสองอัลบั้มก่อน และกล้าออกจากขอบเขตการถูกตีค่าว่าเป็นศิลปินทีนป๊อปทั่วไปที่มีฐานแฟนคลับเป็นเด็กผู้หญิง โดยซาวด์ของอัลบั้มนี้เหมือนขึ้นรถไฟเหาะที่ขึ้นลงตลอดเวลากับแนวเพลงต่างๆ ทั้งร็อกแบบ Kings of Leon ในเพลง In My Blood ที่ปล่อยเป็นซิงเกิลแรก, แนวฟังก์แบบ Prince ในเพลง Nervous ที่มีความขี้เล่น และแนวเพลงอาร์แอนด์บีในเพลง Lost In Japan ที่ทำให้เรานึกถึง Justin Timberlake ส่วนในเพลง Where Were You In The Morning ที่มาในสไตล์ป๊อปอะคูสติกผสมอาร์แอนด์บี ก็มีความเป็น John Mayer ศิลปินที่เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทและแรงบันดาลใจสำคัญของชอว์น โดยเขายังมาช่วยโปรดิวซ์เพลง Like To Be You ที่ชอว์นร้องคู่กับ Julia Michaels ศิลปินและนักแต่งเพลงสาวมากความสามารถ
ส่วนเพลงป๊อปสบายๆ อย่าง Fallin’ For You ถ้าฟัง 5 วินาทีแรกก็จะทำให้นึกถึง Ed Sheeran โดยทันที ซึ่งศิลปินชาวอังกฤษคนนี้ก็เป็นผู้อยู่เบื้องหลังตามคาด ซึ่งถ้าตัดออกมาเป็นซิงเกิล เราเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จและอาจเป็นเพลงประจำสำหรับคู่รักหลายคน
ด้านเพลง Youth ที่ชอว์นเพิ่งไปร้องที่งาน Billboard Music Awards กับศิลปินมาแรงอย่าง Khalid ก็เป็นอีกไฮไลต์สำคัญของอัลบั้มใหม่ โดยชอว์นได้กล่าวในบทสัมภาษณ์กับคลื่น Beats 1 ของ Apple Music ว่า ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์การระเบิดที่คอนเสิร์ตของ อะรีอานา กรานเด เมื่อปีที่แล้ว เขาอยากทำเพลงที่สะท้อนถึงจุดยืนและความเข้มแข็งของเยาวชนในสังคมยุคนี้ที่ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ซึ่งก็ทำให้เห็นว่าชอว์นเริ่มเข้าใจถึงพลังในกำมือตัวเองที่สามารถขับเคลื่อนสังคมได้ และบางครั้งหากจะทำแต่เพลงที่เซฟอย่างเดียว เราก็อาจจะไม่เห็นการพัฒนาในศักยภาพของการเป็นศิลปินเบอร์สำคัญของวงการ
มีอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ หากฟังอัลบั้ม Shawn Mendes จนจบจะรู้ว่า เขาแทบจะไม่ใช้สรรพนามเรียกผู้ชายหรือผู้หญิง ซึ่งเหตุผลมาจากที่หนึ่งในเพื่อนสนิทและโปรดิวเซอร์ประจำของเขา Teddy Geiger ที่ทำงานด้วยกันมาตั้งแต่เพลง Stitches ได้ออกมาประกาศว่าเป็นผู้หญิงข้ามเพศระหว่างทำอัลบั้มชุดนี้ ชอว์นเลยอยากให้อัลบั้มนี้คนทุกเพศทุกวัยใช้เพลงในบริบทของตัวเองและไม่ต้องมีข้อจำกัดใดๆ แถมยังเป็นการยกย่องเพื่อนสนิทเขาอีกด้วยที่ช่วยแต่งหลายๆ เพลงในชุดนี้
หลังจากนี้ชอว์นจะไปโปรโมตอัลบั้มชุดนี้ตามรายการต่างๆ เช่น The Today Show ก่อนจะเริ่มเปิดทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกอีกครั้งกับ Shawn Mendes: The Tour ที่จะไปเล่นทวีปอเมริกาและยุโรปในปีหน้า
สามารถไปฟังอัลบั้ม Shawn Mendes ได้ที่: open.spotify.com/album/6AjREacSERvnQTe6GFTx3c?si=PP0eihOdS6eCd7nk8v9pdA