วันนี้ (31 สิงหาคม) พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ในฐานะประธานในการประชุมตัวแทนพรรคการเมือง เพื่อตั้งคณะกรรมการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร 35 คณะ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมตัวแทนพรรคการเมืองเพื่อจัดสรรโควตาคณะกรรมาธิการ 35 คณะ
พิเชษฐ์กล่าวว่า เบื้องต้นที่ประชุมได้ข้อสรุปคือ พรรคก้าวไกลได้ที่นั่งประธานคณะกรรมาธิการ 10 ตำแหน่ง, พรรคเพื่อไทย 10 ตำแหน่ง, พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคละ 3 ตำแหน่ง, พรรคประชาธิปัตย์ 2 ตำแหน่ง, พรรคชาติไทยพัฒนา 1 ตำแหน่ง และพรรคประชาชาติ 1 ตำแหน่ง
และมีจำนวนสัดส่วนกรรมาธิการดังนี้ พรรคก้าวไกล 158 ตำแหน่ง, พรรคเพื่อไทย 148 ตำแหน่ง, พรรคภูมิใจไทย 75 ตำแหน่ง, พรรคพลังประชารัฐ 42 ตำแหน่ง, พรรครวมไทยสร้างชาติ 38 ตำแหน่ง, พรรคประชาธิปัตย์ 26 ตำแหน่ง, พรรคชาติไทยพัฒนา 11 ตำแหน่ง, พรรคประชาชาติ 10 ตำแหน่ง, พรรคไทยสร้างไทย 6 ตำแหน่ง, พรรคชาติพัฒนากล้าและพรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคละ 2 ตำแหน่ง, พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคละ 1 ตำแหน่ง
ซึ่งในที่ประชุมพรรคก้าวไกลได้ขอให้การเลือกตั้งที่จังหวัดระยองเสร็จสิ้นไปก่อน หากพรรคก้าวไกลชนะก็จะได้ที่นั่งคณะกรรมาธิการเพิ่มอีก 1 คณะ เป็น 11 คณะ ในเรื่องนี้ตัวแทนแต่ละพรรคการเมืองระบุว่า ควรอยู่กับปัจจุบันที่มี สส. จำนวน 499 คน ดังนั้นสัดส่วนจึงเป็นไปตามที่แบ่งไว้ข้างต้น ซึ่งหากพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งที่จังหวัดระยอง และเมื่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองแล้ว ก็ให้เป็นหน้าที่ของวิปแต่ละพรรคมาพูดคุยกัน ในเรื่องนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้
พิเชษฐ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างให้พรรคการเมืองเจรจาระหว่างกันว่าพรรคใดจะได้ประธานคณะกรรมาธิการคณะไหน เพื่อนำข้อมูลการเจรจามาพูดคุยในที่ประชุมวันจันทร์ที่ 4 กันยายนนี้ โดยสุดท้ายการพิจารณาสัดส่วนคณะกรรมาธิการสามัญ และตำแหน่งกรรมาธิการของ สส. ทั้ง 499 คน จะไปแล้วเสร็จในวันที่ 13 กันยายนนี้ หลังจากนั้นวันที่ 14 กันยายน จะเป็นการประชุมคณะกรรมาธิการนัดแรกของแต่ละคณะ
สำหรับการเลือกเก้าอี้คณะกรรมาธิการให้เป็นไปตามความต้องการของแต่ละพรรคว่าต้องการคณะกรรมาธิการคณะไหน ซึ่งหากไม่ซ้ำกันก็ให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งหากพรรคการเมืองต้องการเก้าอี้กรรมาธิการซ้ำกันต้องพูดคุยกันเป็นรอบที่ 2 โดยคิดว่าเรื่องนี้น่าจะลงตัวได้ สำหรับเก้าอี้ที่พรรคการเมืองต้องการซ้ำกันขณะนี้มีเพียงไม่กี่คณะ เช่น คณะกรรมาธิการการแรงงาน คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น
พิเชษฐ์กล่าวว่า การเลือกเก้าอี้คณะกรรมาธิการไม่เกี่ยวกับเก้าอี้รัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละพรรคว่าถนัดที่จะตรวจสอบหรือดำเนินการด้านไหน