ดัชนี SET ตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ระดับ 1,648.46 จุดในวันนี้ (5 มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 10.77 จุด หรือ 0.66% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54,214.32 ล้านบาท
ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดการซื้อขายในวันนี้ โดยแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,650.70 จุด และจุดต่ำสุดที่ 1,642.35 จุด
สำหรับปัจจัยในประเทศที่ช่วยหนุนดัชนีปิดพุ่งกว่า 10 จุดนั้น มาจากทิศทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้นและใกล้ได้ข้อสรุป หลังสมาชิกรัฐสภาเตรียมลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ส่วนปัจจัยนอกประเทศได้แรงหนุนจากการที่เจอ โรม เพาเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ตลาดคลายความวิตกกังวลจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดี
อย่างไรก็ตามในมุมมองของ FINNOMENA Investment Committee (IC) นั้น การเคลื่อนไหวของตลาดปัจจุบันเกิดจากการที่นักลงทุนซึมซับข่าวไปแล้ว โดยจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า ปัจจัยจากการเลือกตั้งและเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นไม่มีนัยสำคัญต่อตลาดโดยตรง โดยทางทีมวิเคราะห์มองว่า การที่ตลาดมีการปรับตัวขึ้น มาจากการรับรู้ข่าวการเข้าคำนวณ MSCI ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยประมาณ 60,000-70,000 ล้านบาท และการเข้าซื้อหุ้นคืนจากการทำ Naked Short ของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ในวันที่มีมูลค่าซื้อขาย 200,000 ล้านมากกว่า ส่งผลให้ตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
อธิบายเพิ่มเติมคือ ตลาดรับรู้ข่าวว่าไทยจะจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน แต่มีแนวโน้มสูงที่การเมืองจะมีเสถียรภาพต่ำ ทำให้มีเงินลงทุนไหลเข้าจากกองทุนประเภท Passive และ ETF เท่านั้น
แต่กองทุนประเภท Active เองยังให้น้ำหนักการลงทุนในไทยค่อนข้างต่ำไป จึงส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลเข้าไม่มากนัก เนื่องจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ยังถูกปรับประมาณการลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่า
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- Finnomena
- KTBST