วันนี้ (15 ตุลาคม) อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่า ตลาดหุ้นไทยเจอปัจจัยกดดันทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/63 ส่งผลให้นักลงทุนยังเลือกรอดูสถานการณ์
ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่กดดัน ได้แก่ สถานการณ์การเมืองที่นำมาสู่ความเคลื่อนไหวของภาครัฐในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความรุนแรง กลายเป็นภาพลบให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งซิกแซกลง โดยตามสถิติที่ผ่านมาหากสถานการณ์ยืดเยื้อจะส่งผลลบต่อตลาดหุ้น และกระทบต่อการบริโภคในประเทศ
ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ที่ปรับตัวลดลงเป็นการลดลงอย่างผสมผสาน โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ได้แก่ กลุ่มการบริโภคในประเทศ เช่น ค้าปลีก เช่น CPN, Homepro, CRC โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกได้รับผลกระทบจากความกังวลว่าการบริโภคในประเทศที่เปราะบางอยู่แล้วจากสาเหตุหลัก เช่น การตกงาน ซึ่งเมื่อการบริโภคยังเปราะบางอาจส่งผลต่อมาตรการที่ภาครัฐออกมาอย่าง ช้อปดีมีคืน อาจจะสะดุดบ้าง
“เมื่อย้อนดูการเมืองในอดีตจะพบว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มาจากการชุมนุมจะส่งผลให้ SET Index ปรับตัวลดลงราว 2% ในช่วง 3 วันทำการแรก หลังจากนั้นตลาดจะปรับตัวตามสถานการณ์ มองว่าเป็นผลกระทบช่วงสั้นๆ และขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย” อภิชาติกล่าว
ทั้งนี้ ทางทิสโก้ประเมินว่าแนวรับ SET Index วันนี้มีโอกาสลงไปสู่ระดับ 1,240 จุด โดยแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,230 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ขณะที่แนวต้านมองที่ระดับ 1,260 จุด คาดว่าจะเห็นการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ที่ขายสุทธิ 2,600 ล้านบาท
ขณะที่ภาพทั้งเดือนตุลาคมนี้มีโอกาสที่หุ้นไทยจะปรับลดลงต่ำกว่านี้ โดยต้องจับตาสถานการณ์ต่างๆ แต่ยังไม่เห็นปัจจัยบวก ดังนั้นมีโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ที่ระดับ 1,200-1,220 จุด แต่ต้องรอดูจุดต่ำสุดในแต่ละวันประกอบ โดยประเมินแนวต้านของเดือนนี้ไว้ที่ 1,280 จุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อปัจจัยต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศยังไม่คลี่คลายยังเห็นทิศทางที่ตลาดอาจเป็นขาลงได้ ทำให้นักลงทุนต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่างๆ และมุ่งจับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในส่วนของไทยอาจต้องจับตามองช่วงต้นเดือนหน้าเมื่อมีการเปิดสภา โดยต้องติดตามประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทาง บล.ทิสโก้ ยังแนะนำกลยุทธ์ทยอยสะสมหุ้นที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในปีหน้า และจะมีรายได้ที่โดดเด่นในรูปแบบ Selective Buy โดยยังไม่ต้องเร่งรีบมากนัก
ทั้งนี้ ณ เวลา 16.09 น. ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,241 จุด ลดลง 22.40 จุด จากการเปิดตลาดช่วงเช้าที่อยู่ระดับ 1,263.99 จุด
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล