26 มิถุนายน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้ความเห็นถึงกรณีที่ สุบรรณ มหาชนนท์ ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ตกเป็นข่าวพัวพันกับยาไอซ์จำนวน 985 กิโลกรัมว่า
“ทราบข่าวแล้ว เป็นเรื่องเฉพาะตัว เราต้องเข้าใจความจริงว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อให้มีผู้สมัครทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ แล้วเอาคะแนนทุกคะแนนมารวมกัน พรรคการเมืองทุกพรรคไม่ว่าเก่าหรือใหม่ ถ้าอยากได้ ส.ส. ทั้งสองแบบให้มากแบบเต็มที่ สามารถเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็จะต้องส่งผู้สมัครแบบเขตเลือกตั้งให้ครบ เพื่อที่จะมีคะแนนให้ครบ 350 เขต บัญชีรายชื่อก็เช่นกัน คิดว่าจะมีมากก็ส่งให้มาก สำหรับพรรคเสรีรวมไทยและพรรคสมัครใหม่อื่นๆ ที่ประสงค์ชนะการเลือกตั้ง จำเป็นต้องส่งผู้สมัครให้ครบ 350 เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคของเราไม่มีอดีต ส.ส. อดีต ส.ส. ไม่สนใจเข้าร่วมกับพรรค พรรคจึงเปิดรับสมัคร ซึ่งมีผู้สมัครประมาณ 2,000-3,000 คน ทางพรรคก็จะมีกรรมการสรรหา ตรวจสอบเพื่อหาคนเหมาะสมลงสมัครในแบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ
“การตรวจสอบก็ไม่ได้ลึกอะไรมากมาย เป็นการตรวจสอบลักษณะเบื้องต้นในการเป็นผู้สมัคร เราไม่สามารถบอกว่าใครมีประวัติอาชญากรรมบ้าง เคยทำผิดกฎหมายอะไรบ้าง เราไม่มีเวลา เพราะเวลากระชั้นชิดมาก คณะกรรมการของพรรคก็จะร่วมกันพิจารณาว่าใครเหมาะสมลงสมัครเขตไหน จังหวัดไหน ที่เหลือส่วนหนึ่งก็จะยกไปเป็นบัญชีรายชื่อบ้าง โดยเอาเรื่องของประวัติส่วนตัวมาพิจารณาประกอบ
“อย่างผมเบอร์ 1 คือหัวหน้าพรรค เบอร์ 2 วัชรา วังขนาย ก็คงเคยได้ยินนามสกุลวังขนาย เบอร์ 3 ที่เป็นรองหัวหน้าพรรคก็ทำงานเป็นเลขาส่วนตัวผมมาตลอด เบอร์ 4 เป็นอดีตกรมการแพทย์ ส่วนเบอร์หลังๆ เราก็ใส่ให้ครบ”
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยอีกว่า “พรรคของเราไม่สามารถตรวจสอบประวัติบุคคลที่มาสมัคร เพราะเวลาเราน้อย เราไม่รู้จักว่าบุคคลเหล่านี้เป็นใคร มาอย่างไร ท่านลองคิดดูแล้วกัน ขนาดคณะกรรมการสรรหาวุฒิสมาชิกยังสรรหากันไม่มีระบบ สรรหากันง่ายๆ เอาพรรคพวกญาติพี่น้องเข้ามาเต็มสภากันหมด อย่างผมยังไม่เอาญาติพี่น้องลูกเต้าเข้ามายุ่งเกี่ยวข้องด้วยเลย ลองไปดูผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทย ไม่มีนามสกุลเตมียเวสทั้งสองระบบ หรือแม้กระทั่งเมื่อเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขาให้มีผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ ผู้ช่วย ส.ส. ได้ท่านละ 8 คน ผมยังไม่เอาลูกผมเข้ามาเลย เพราะเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่เอาลูกตัวเองเข้ามา ไปด่าเขาสภาผัวเมีย แต่นี่ไม่แย่มากกว่าเหรอ
“เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นเรื่องเฉพาะตัว เฉพาะบุคคล พรรคไม่เกี่ยว ไม่รู้เรื่องด้วย ไม่คิดว่าเป็นเรื่องเสียหาย หากว่าแยกแยะกันได้ระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องพรรค คนอย่าง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เป็นคนไทยตัวอย่าง บุคคลดีเด่นของชาติ เป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นข้าราชการที่ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยามาแล้วนะครับ เรื่องตรงนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ได้เลย นโยบายของพรรคเสรีรวมไทยข้อหนึ่งคือ ต้องปราบปรามยาเสพติดให้สิ้นซาก ผมหาเสียง ผมก็พูดตลอดเวลา เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว เขาไม่เกี่ยวข้องกับพรรค เขาไม่ได้อยู่ในพรรค ปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า