วันนี้ (20 พฤษภาคม) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณา MOU ของพรรคก้าวไกล เพื่อตั้งรัฐบาล ว่าขณะนี้ตนกำลังดูอยู่ โดยเนื้อหา MOU มีประมาณ 1 หน้ากระดาษกว่าๆ และกำลังดำเนินการแก้ไขเพื่อส่งกลับไป เนื่องจากตนมองว่าเนื้อหาใน MOU มีการลงรายละเอียดมากเกินไป เช่น ปฏิรูปทหาร ประเด็นสมรสเท่าเทียม ประเด็นสุราก้าวหน้า แต่ไม่มีประเด็นมาตรา 112
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวต่อไปว่า MOU ข้อตกลงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลนี้ มันต้องไม่ลงลึกในรายละเอียด แต่ควรจะทำให้เป็นภาพกว้างๆ เพราะมันเหมือนว่าพรรคก้าวไกลกำลังจะผูกมัดพรรคร่วมเพื่อให้เห็นด้วยกับประเด็นของพรรคก้าวไกล ซึ่งบางเรื่องตนก็เห็นด้วย แต่มองว่ามันไม่ควรผูกมัดกันไว้ และหากจะแก้ไขหรือทำเรื่องอะไรก็ไปดำเนินการในขั้นตอนรัฐสภา พร้อมย้ำว่า MOU ควรจะทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ข้าราชการ ประชาชน 70 ล้านคน มีอุดมการณ์ร่วมกันและเข้าใจตรงกันก่อน ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่พรรคเสรีรวมไทยจะส่งข้อเสนอแนะนี้กลับไปให้พรรคก้าวไกลเพื่อพูดคุยกันอีกที ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะทันการประกาศแถลงร่วมวันที่ 22 พฤษภาคมนี้
ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลดึงพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมรัฐบาลนั้น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบหลังข่าวออก และประเด็นที่ประชาชนบางส่วนแอนตี้เรื่องนี้ ตนมองว่าพรรคชาติพัฒนากล้าก็ไม่ได้ไปร่วมยึดอำนาจด้วย เพียงแต่ว่าเขาไปร่วมรัฐบาลด้วย ฉะนั้นตรงนี้ถ้าเขาไม่เอา รวมถึงประชาธิปัตย์ 20 กว่าเสียง ถ้าคุณไม่เอา แล้วคุณจะไปเอาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จากไหนมาได้ ซึ่งก็ไม่รู้คนที่คัดค้านอยู่ฝ่ายไหนแน่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าไม่เอาฝ่ายที่อยู่ข้างรัฐบาลเดิมเลย จะถือว่าเป็นเกมที่ยากต่อการตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลหรือไม่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เสียงคัดค้านมีเท่าไรล่ะ คนสองคนทำขึ้นมามันทำให้ถึงขั้นจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เลยหรือ ฉะนั้นพรรคก้าวไกลต้องยืนหยัดทำอะไรต่างๆ จะให้มัน 100 เปอร์เซ็นต์เป็นไปไม่ได้ พร้อมเสนอว่าพรรคก้าวไกลจะต้องเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อไปอย่าได้ถอย ส่วนกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์นี้ตนมองว่าก็ควรจะช่วยกันเดินหน้าเพื่อตั้งรัฐบาลให้ได้
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีถ้า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยอมถอยวางมือทางการเมือง พรรคก้าวไกลจะสามารถจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ ว่าต้องเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล แต่ตนมีจุดยืนหนึ่งเดียวคือสนับสนุน โดยจะไปพูดคุยกับ ส.ส. และ ส.ว. ให้ พร้อมย้ำว่าเล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องผ่านไปบ้าง เพื่อให้ทำงานใหญ่ได้
ส่วนกระแสการตั้งรัฐบาลใหม่นี้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ยืนยันว่า วง 8 พรรคตั้งรัฐบาลขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องจัดวางเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะเมื่อยังรวมไม่ได้จะแบ่งกันได้อย่างไร ซึ่งยังไม่ถึงเวลา ขอให้มาร่วมใจตั้งรัฐบาลกันให้ได้เสียก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเสรีรวมไทยมองไว้บ้างหรือไม่ว่าถนัดทำงานในกระทรวงใด พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ระบุว่า ตนมีเพียงแค่ 1 เสียง ซึ่งพูดไม่ได้ แต่คิดว่าการบริหารจัดการไม่ว่าองค์กรการเมืองหรือเอกชน ควรพิจารณาคนที่มีความรู้ความสามารถให้เหมาะสมกับงาน เพราะหากบริหารแบบรัฐบาลก่อนๆ โดยอิงตามโควตา ก็จะไม่ได้ผู้ที่รู้งานเข้ามาทำงาน