วันนี้ (30 สิงหาคม) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จัดแถลงข่าวภายหลังมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)
โดย พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวยืนยันว่าได้ลาออกจริง ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากมีการให้ความเห็นชอบ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุว่าตนเสียสละมามาก ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ตนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมา 1 เสียง ในขณะที่ผู้สมัครของพรรคเสรีรวมไทยมีความสามารถอีกหลายคนกลับไม่ได้รับเลือก แต่คนที่เมาแล้วขับรถชน คนที่ทะเลาะวิวาท ตบตีผู้หญิง มีประวัติรับโทษจำคุกมาก่อน กลับได้รับเลือก ทำให้ตนไม่ได้ศรัทธากับการเลือกตั้ง
ส่วนที่ตนเพิ่งมาลาออกเพราะตนยังมีภารกิจในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ตนเคยโทรศัพท์ติดต่อไปขอเสียงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และพรรคประชาธิปัตย์ แม้ สส. ก้าวไกลบางคนจะคิดไม่ได้ เมื่อพรรคก้าวไกลไปไม่ได้ก็ต้องสนับสนุนพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ตนรู้จัก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มานานเกือบ 55 ปีแล้ว เพราะเป็นรุ่นพี่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จะทิ้งได้อย่างไร นอกจากนี้ตนได้ให้คำแนะนำกับแกนนำพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นรุ่นน้องตนทั้งนั้น ตอนนี้ภารกิจเสร็จสิ้นแล้วก็จะลาออกมาสร้างพรรคใหม่
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวต่อว่า ตนทำหน้าที่ในสภามา 4 ปีแล้ว ตนไม่เคยไปขอตำแหน่งใคร ไม่เคยยึดติด ตนจึงสละให้คนในพรรคได้ทำงานบ้าง ไม่เหมือนใครบางคนเป็นนายกฯ มา 2 สมัย เป็นประธานสภามา 2 สมัย มีความยิ่งใหญ่ถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้จักพอ ยังมาลงเลือกตั้งอีก ไม่ปล่อยให้ลูกน้องคนรุ่นลูกรุ่นหลานบ้าง จนพรรคแตก ไม่รู้จะเป็นไปทำไม ไม่มีใครเคารพ เพราะไม่รู้จักเสียสละ
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ตนประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงมานานแล้วตั้งแต่เหตุการณ์วีรบุรุษนาแก พวกที่อยู่ในสภายังไม่เกิด หันกลับไปเทียบกับคนที่จะเป็นรัฐมนตรีแย่งกันเหมือนหมาแย่งชามข้าว
“แย่งกันเหมือนหมาแย่งชามข้าว เวลามีชามข้าวชามเดียว แย่งกันวายป่วงไปหมด ตอนนี้รัฐมนตรีก็แย่งกัน คนโน้นจะเป็นไอ้นี่คนนี้จะเป็นไอ้นั่น เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ผมก็สงสัยว่าพวกนี้พอไปนั่งเป็นเจ้ากระทรวงไม่อายข้าราชการประจำกันบ้างเหรอ ข้าราชการประจำอย่างผมเติบโตมาอย่างมีระบบระเบียบ แต่มาเจอเจ้านายแย่งผลประโยชน์กันน่าดู เคารพได้เหรอ นักการเมืองไทยมีคนซื่อสัตย์สุจริตบ้างไหม ซื้อเสียงเข้ามา ทุจริตแล้วกลับไปซื้อเสียงกันใหม่ โกงกันทั้งนั้น” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยสัญญากับพรรคเพื่อไทยว่าเข้ามาช่วยเพื่อแลกกับตำแหน่งอะไร แตกต่างจากพรรคก้าวไกลที่เคยเสนอตำแหน่งให้ และไม่ผิดหวังที่ไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ เพียงแต่สงสัยที่ตั้งคนที่มีคดีติดตัว ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์อย่าง พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รุ่นน้องตน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้อย่างไร ตนเห็นแล้วปวดหัว ดูก็รู้แล้ว คนมีตั้งเยอะ แต่ตนก็ไม่ได้ทักท้วง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดูไม่เหมาะสมใช่หรือไม่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ระบุว่า คุณก็ไปดูเอาสิ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนตายคนเจ็บเยอะจึงถูกดำเนินคดี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง แต่เนื่องจากเป็น ผบ.ตร. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มาออกคำสั่งยกโทษให้ แต่ตนถามว่ายกโทษให้แล้วความผิดยังอยู่หรือไม่ เช่น กรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แม้กำลังขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ต้องคำพิพากษาแล้ว ก็เหมือนกรณีนี้คือให้ออกจากราชการ แต่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กลับบอกว่าศาลปกครองยกเลิกคำสั่งแล้ว ถือว่าได้รับการยกโทษ
ส่วนกรณีทนายของตนยื่นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติ พล.ต.อ. พัชรวาทนั้น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เป็นความหวังดีของทนายที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม เพราะหากปล่อยให้เสนอชื่อใน ครม. เลขาฯ ครม. วิษณุ รวมถึงเศรษฐาอาจติดคุกได้ เพราะเวลาเสนอรายชื่อขึ้นไปจะมีการแนบเอกสารข้อเท็จจริงขึ้นไปทั้งหมด แต่ถ้าครั้งนี้ตรวจสอบแล้วบอกว่าไม่ผิด ตนจะมาตรวจสอบต่อ และหากส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วขาดคุณสมบัติ คนเหล่านี้จะต้องติดคุก
ส่วนกรณี พิชิต ชื่นบาน ว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เจ้าตัวระบุว่าไม่ได้ถูกคำพิพากษา แต่จำคุกจากการหมิ่นศาลฯ นั้น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ตรวจสอบเพราะอยู่ในขั้นตอนของการยื่นเลขาฯ ครม. พร้อมย้ำว่าการไปตรวจสอบประวัติ พล.ต.อ. พัชรวาทจะไม่สร้างความขัดแย้งให้กับพรรคร่วม เพราะตนอยู่กับแค่ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่ 11 พรรคร่วม และสนับสนุนพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่าตนเองเป็นฝ่ายรัฐบาล แต่ไม่ได้ร่วมกับพรรคสองลุงและพรรคภูมิใจไทย พร้อมปฏิเสธไม่ยอมรับว่าเป็นฝ่ายค้าน
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวถึงกรณีที่เศรษฐาไปพบ พล.อ. ประยุทธ์ว่า “พอเสร็จเศรษฐาก็ไปพบประยุทธ์ คุยกันหนุงหนิง ผมก็ไม่รู้หรอกเขาคุยอะไร แต่สิ่งที่จะคุยกันก็คือ ทำได้ไง เขาปฏิวัติแล้วก็ไปคุยกับเขาเฉยเลย มันต้องมีการสมยอมข้อตกลงอะไรบางสิ่งบางอย่างที่ประยุทธ์ผิดพลาด ถ้าเป็นเสรีพิศุทธ์ขึ้นมาประยุทธ์ก็ไม่มีแผ่นดินอยู่ พอเป็นเศรษฐาประยุทธ์ก็ยิ้มย่อง แบบนี้ตกลงกันจริงหรือเปล่า ตกลงแบบนี้หักหลังประชาชน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ใครหักหลัง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย เศรษฐาจะรู้จักใคร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เศรษฐาเป็นหุ่นเชิดใช่หรือไม่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ย้อนถามว่า เขาไม่รู้ตัวเหรอ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ใครเป็นคนชักใยเบื้องหลัง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ก็เจ้าของพรรคเขา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทำให้เราเสียใจที่ช่วยพรรคเพื่อไทยหรือไม่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ระบุว่า ไม่หรอก ตนรู้จักทักษิณมานาน พร้อมย้ำว่าไม่ขอเตือนพรรคเพื่อไทย ปล่อยให้ดำเนินการไป
ส่วนการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของ สุทิน คลังแสง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ระบุว่า กลุ้มใจหลายตำแหน่ง พร้อมหัวเราะ และกล่าวว่า ไม่รู้ตั้งกันไปได้อย่างไร
ส่วนการลาออกของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นการรักษาคำพูดหรือไม่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ระบุว่า ลาออกก็ดี เพราะเป็นคำมั่นสัญญาที่ชัดเจน ไม่ใช่นโยบาย แต่เมื่อมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ นพ.ชลน่านสามารถไปเป็นอะไรก็ได้ ไม่เสียหาย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี สิระ เจนจาคะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จุดประทัดฉลองการลาออก กระทบมาถึงท่านหรือไม่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ระบุว่า เดี๋ยวก็โดนอีก นี่ก็โดนอีกคดีแล้ว แต่ทนายยังไม่เขียนฟ้อง แต่ผมยังไม่เห็นเรื่องจุดประทัด อยากจุดก็จุดไป นี่เขายังไม่รู้ตัวอีกเหรอ เจ็บอยู่ในอกแค้นอยู่ในใจตลอดทั้งชีวิต พร้อมฝากไปถามว่า ได้ใช้เงินคืนรัฐสภาครบแล้วหรือยัง
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ยังย้ำด้วยว่า การเมืองเป็นเรื่องสำคัญ การจะเลือกคนมาเป็นตัวแทนในการทำหน้าที่ สส. ประชาชนก็ต้องเลือกคนดีเป็นผู้แทน ไม่ใช่เลือกใครก็ได้ ตราบใดที่ประชาชนตกเป็นเบี้ยล่างก็ออกจากวังวนนี้ไม่ได้