วานนี้ (2 มิถุนายน) รายการ THE STANDARD NOW สัมภาษณ์ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ดำเนินรายการโดย อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ ถึงความคิดเห็นที่มีต่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และสมาชิกวุฒิสภา กับเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ที่มีต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า หาก พล.อ. ประยุทธ์จะสนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตยควรพูดว่า ‘ตนเองพอแล้ว’ หรือหยุดการเป็นรัฐบาล เพื่อที่ ส.ว. จะได้สบายใจและไม่อึดอัดในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ถ้า พล.อ. ประยุทธ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังคงมีความต้องการเป็นรัฐบาลอยู่ ก็ย่อมส่งผลต่อ ส.ว. ที่จะเกิดความอึดอัดในการแสดงออกทางจุดยืน เสมือนว่า พล.อ. ประยุทธ์ไปขู่อะไร ส.ว. ไว้หรือไม่
ทั้งนี้ ส.ว. ควรจะกล้าคิด กล้าตัดสินใจ เพื่อทำให้บ้านเมืองอยู่รอดปลอดภัย เป็นประชาธิปไตยต่อไปได้ เนื่องจากระบอบเผด็จการอยู่มา 8-9 ปีแล้ว ฉะนั้นเมื่อประชาธิปไตยเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ส.ว. ควรจะสนับสนุนให้ประชาธิปไตยดำเนินต่อไปได้ ซึ่งจริงๆ แล้วการที่ ส.ว. มาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคือสิ่งที่ไม่เป็นธรรม แต่ต้องยอมรับกับข้อกฎหมายที่เกิดขึ้น
“การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว (2562) พลังประชารัฐยังจะให้ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีกับตนเองเลย ผมพูดหลายครั้งแล้วนะ ให้เป็นรองนายกฯ ด้วย ให้เงินอีก 300 ล้านบาทด้วย ผมยังไม่ไปเลย ผมขออยู่ฝั่งประชาธิปไตย และไม่เอา พล.อ. ประยุทธ์ ถ้า พล.อ. ประยุทธ์ จัดรัฐบาลงวดนี้ ผมขอเป็นฝ่ายค้าน ฉะนั้นตอนนี้เมื่อฝ่ายค้านเดิม (เพื่อไทย-ก้าวไกล) ได้คะแนนเสียงมา ผมก็อยู่ฝ่ายนี้” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ระบุ
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์เปิดเผยอีกว่า ส.ว. ชอบพูดเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ว่าหากมีอยู่ก็จะไม่โหวตเลือก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งในการลงนามข้อบันทึกร่วม (MOU) ก็ไม่มีหัวข้อการแก้ไขมาตรา 112 ฉะนั้นตนเองขอยืนยันว่าไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลไปแก้ไขมาตรา 112
และเชื่ออีกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ได้คะแนนเสียงเยอะ เช่น พรรคเพื่อไทย ก็ไม่ยอมให้มีการแก้ไขมาตรา 112 เช่นกัน ฉะนั้น ส.ว. อย่าได้กังวลกับประเด็นนี้เลย
ทั้งนี้ สภาชุดที่แล้วตั้งใจจะไม่ยกเลิกและไม่ยุ่งกับมาตรา 112 ซึ่งตนเองมีประสบการณ์กับมาตรานี้ เป็นทั้งผู้ถูกกระทำและถูกแจ้งข้อหา ดังนั้นตนเองทราบดีว่าเบื้องบนคิดอย่างไร ซึ่งเบื้องบนไม่เห็นด้วยที่จะให้แก้ไข อย่างไรก็ตาม ตนเองได้เคยเสนอแล้วว่าถ้าจะแก้ไข ต้องแก้ไขเพื่อให้ได้ประโยชน์แก่สถาบันฯ และประชาชน
“ตนเองขอยืนยันกับ ส.ว. เลยว่า ถ้าผมอยู่จะไม่ให้แก้มาตรา 112 เพื่อให้ ส.ว. สบายใจ จะได้โหวตได้อย่างอิสระ ไม่อย่างนั้นก็จะมาอ้างมาตรา 112 อยู่เรื่อยๆ ผมรับรองไม่ให้ผ่าน ถ้าหาข้ออ้างอย่างอื่นมา พี่น้องประชาชนก็รู้ว่า ส.ว. เกเรนี่หว่า” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ขยายความปิดท้าย