วานนี้ (13 กรกฎาคม) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านรายการ THE STANDARD NOW ดำเนินรายการโดย ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ ถึงประเด็นที่ผู้สมัครจากพรรคเสรีรวมไทย เดชทวี ศรีวิชัย ได้รับคะแนนเสียงชนะ วัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครจากพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เป็นหัวหน้าพรรคแชมป์เก่า จากการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขต (เขต 4) ที่จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามความตั้งใจที่อยากให้พรรคมี ส.ส. แบบแบ่งเขต ซึ่งเดชทวีถือเป็นคนแรกของพรรคที่ได้ เพราะที่ผ่านมาพรรคมีแต่ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ จะเห็นว่าที่ผ่านมาถ้ามีเลือกตั้งซ่อมที่ไหนทางพรรคเสรีรวมไทยจะไม่พลาดโอกาสที่จะส่งผู้ลงสมัครตลอด
สำหรับนโยบายการหาเสียงที่ลำปางครั้งนี้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ใช้นโยบายการหาเสียงเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา คือการลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชนให้ครอบคลุม ทั่วถึง และต้องแสดงถึงความสุจริตโปร่งใส แต่ต้องยอมรับว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของพรรคเพื่อไทยเก่า ซึ่งเรื่องนี้ตนได้พูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันว่าถ้าส่งลงแข่งด้วยกันจะเป็นการตัดคะแนนกันเองหรือไม่ และได้คุยกับ ร.อ. ธรรมนัส ของพรรคเศรษฐกิจไทยโดยตรงด้วยว่าขอพี่สักสนาม เพราะอยากได้ ส.ส. แบบแบ่งเขต
สำหรับการทำกิจกรรมหาเสียง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่การวางแผนของพรรคหลักๆ จากภาพที่เห็นการวางแผนของพรรคเศรษฐกิจไทยจะเน้นไปที่การให้ประชาชนมาฟังปราศรัยจำนวนมาก ซึ่งแตกต่างกับพรรคของตนที่จะใช้วิธีการแบ่งให้รองหัวหน้าพรรคพร้อมสมาชิกลงพื้นที่แต่ละอำเภอ ส่วนตนใช้วิธีเวียนไปให้ครบทุกอำเภอ ทุกบ้าน ทุกตลาด ฉะนั้นแล้วพรรคตนไม่มีโอกาสที่จะได้รวมปราศรัยคนจำนวนมาก และต้องใช้งบประมาณมาก สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือการพูดปราศรัยกับชาวบ้าน ขายนโยบายที่มีเท่านั้น
“ในสนามที่ผ่านๆ มาที่ยังไม่ได้รับเลือก ยอมรับว่ามีต้นทุนที่ต่างกับพรรคอื่นที่เป็นคนเก่าแก่ในพื้นที่ ทำกิจกรรมมานาน และครั้งนี้ฝั่งของ วัฒนา สิทธิวัง ก็เป็นหนึ่งในผู้สมัครที่มีฐานเสียงค่อนข้างมากในพื้นที่ แต่การที่พรรคเศรษฐกิจไทยส่งผู้สมัครคนเดิมที่เคยถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ใบเหลืองมาแล้วจากกรณีการซื้อเสียงเมื่อวันที่ 14 มกราคม ให้กลับมาลงสนาม เรื่องนี้ผมก็ได้พูดกับพี่น้องชาวลำปางว่า การที่ทำแบบนี้ไม่ต่างกับการที่เขาตบหน้าพี่น้องชาวลำปาง” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าว
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวต่ออีกว่า เรื่องการทุจริตซื้อสิทธิ์ขายเสียงตนตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนการประกาศผลการเลือกตั้งแล้วว่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีของการเลือกตั้งทุกเขตทั่วประเทศ เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบัน ส.ส. ซื้อเสียงกันจำนวนมาก เพราะฉะนั้นถ้า ส.ส. เหล่านี้ได้เข้าสภาก็เหมือนการเข้าไปหาเงิน ทำให้ประชาชนเดือดร้อน พรรคจึงอยากเป็นต้นแบบไอเดียว่าไม่ต้องใช้เงินและสู้กันด้วยนโยบาย
หากถามว่าวิธีการเกณฑ์หัวคะแนน ระดมชาวบ้านมานั่งฟังปราศรัย ยังใช้ได้อยู่หรือไม่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า อาจมีอยู่เพราะรูปแบบการทำงานของ ส.ส. มีแตกต่างกันไป แต่วิธีที่พรรคใช้ที่ลำปางครั้งนี้ยังยึดวิธีแบบก่อนคือการนำตัวเองไปอยู่ในที่ที่ชาวบ้านใช้ชีวิตกัน ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ตลาด ลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยในหมู่บ้าน เก็บคะแนนไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ เหตุผลในการชนะการเลือกตั้งครั้งนี้คาดว่าเป็นเพราะพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นพรรคใหม่ และยังไม่มีแนวทางชัดเจนว่าอยู่ฝั่งรัฐบาลหรือฝ่ายค้านด้วย ส่วนสิ่งที่อยากฝากบอกไปทาง ร.อ. ธรรมนัสคือตนในฐานะที่เป็นพี่ ถ้าเลือกตั้งจบก็ขอให้จบ ยังเป็นพี่เหมือนเดิม มีอะไรก็มาคุยกัน เพราะตนในฐานะที่อายุมากกว่า ประสบการณ์มากกว่า ไม่เคยคิดจะทำร้ายน้อง ขอยืนยันว่าชัยชนะครั้งนี้เป็นของประชาธิปไตยอย่างแน่นอน
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 97,355 คน คิดเป็นร้อยละ 60.3 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเป็นบัตรดี 89,037 ใบ บัตรเสีย 3,884 ใบ บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 4,579 ใบ โดย เดชทวี ศรีวิชัย ผู้สมัครจากพรรคเสรีรวมไทย ได้คะแนนรวม 54,359 คะแนน