วานนี้ (24 เมษายน) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พร้อมด้วย วิรัตน์ วรศสิริน, นภาพร เพ็ชร์จินดา และสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย ร่วมงานสวดพระอภิธรรม ทวี ไกรคุปต์ บิดา ของ ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส. พรรคพลังประชารัฐ
โดยปารีณาเดินมารับ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ที่หน้าบ้าน ทันทีที่พบปารีณาได้โผเข้าสวมกอด พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า “ขอบคุณท่านมากๆ ที่มา ไม่คิดเลยว่าท่านจะมา ขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับท่าน ขอบคุณที่ปล่อยปารีณา”
ด้าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ และนภาพรได้จับมือพร้อมกล่าวให้กำลังปารีณาว่า “ให้กำลังใจนะ สู้ๆ นะ” ขณะที่ปารีณาน้ำตาคลอ แล้วพูดว่า “ขอโทษนะที่ตอนอยู่ในสภาประท้วงกันตลอด” นภาพรจึงระบุว่า “ไม่เป็นไรเลย เราไม่เคยโกรธ เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่”
ทั้งนี้ระหว่างรอเวลา ปารีณาได้เล่าเรื่องราวชีวิตหลังยุติการเป็น สส. ให้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ รับฟังด้วยความเศร้าและร้องไห้เป็นระยะ โดยช่วงท้ายของงานปารีณาเกาะแขน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เพื่อกรวดน้ำให้บิดา ซึ่ง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า “หมดทุกข์หมดโศกนะ ขอให้จากนี้มีแต่ความโชคดี”
อดีตเคยขัดแย้ง ปมสร้างท่าเทียบเรือรุกล้ำเจ้าพระยา
สำหรับกรณีพิพาทของปารีณาและ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เกิดจากกรณีปารีณาที่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 ระบุว่า พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ สร้างท่าเทียบเรือรุกล้ำลำน้ำเจ้าพระยา และถมหินรุกล้ำลำน้ำแควน้อย จังหวัดกาญจนบุรีนั้น ทำให้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบและดำเนินคดี
ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า การก่อสร้างท่าเทียบเรือดังกล่าวได้รับอนุญาตจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว และปารีณาได้ยอมรับผิดและสำนึกในการกระทำต่อหน้าบัลลังก์ศาล
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เห็นว่าที่ผ่านมา ปารีณาได้รับผลจากการกระทำของตนเองมามากพอสมควร ทั้งทางคดีอาญาและทางจริยธรรม จึงได้ตัดสินใจให้อภัย โดยยุติการดำเนินคดีถอนฟ้อง ขณะที่ปารีณาได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อขอโทษต่อ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน