วันนี้ (24 กรกฎาคม) ที่รัฐสภา เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ตั้งคณะเจรจาเพื่อพูดคุยกับ ส.ว. เพื่อหาเสียงสนับสนุนในการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะนี้มีการเข้ามาพูดคุยกันหรือยัง ว่าเห็นมีการพูดถึงเรื่องนี้ตามสื่อมวลชน แต่ตนพยายามสื่อออกไปว่าไม่ต้องมาหรอก เพราะจุดยืน ส.ว. ชัดเจน ถ้าพรรคไหนมีนโยบายเสนอแก้รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอาญาที่กระทบกับสถาบันฯ ส.ว. จะไม่เลือกและไม่สนับสนุน ประการสำคัญคือที่บอกว่าไม่ต้องมา เพราะถ้ามาจะมาเจรจากับใคร เจรจากับประธานหรือสมาชิกหลายๆ คน ไม่ได้รังเกียจ แต่หากมาจะเป็นปัญหาว่าจะเอา ส.ว. ไปทางใดทางตามที่ติดต่อมาแล้ว จะกลายเป็นอยู่ใต้อาณัติพรรคการเมือง เพราะบทบัญญัติของอำนาจหน้าที่ ส.ว. ต้องไม่อยู่ใต้อาณัตินักการเมือง ดังนั้นส่วนตัวเข้าใจว่าคงชัดเจนอยู่แล้วว่า ส.ว. ยืนอยู่ตรงจุดไหน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากเป็นการจัดตั้งขั้วรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีพรรคก้าวไกล และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ส.ว. จะโหวตให้หรือไม่ เสรีกล่าวว่า เข้าสู่การพิจารณาเห็นชอบตามปกติ ที่ไม่ปกติคือพรรคก้าวไกลยืนยันอยู่ตลอดว่าแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 แต่การแก้มาตรา 112 นั้นเป็นเพียงข้ออ้าง และเป็นจุดเริ่มต้น เพราะสิ่งที่ต้องการไกลกว่านั้น เราจึงไม่เห็นด้วย พรรคการเมืองใดก็ตามที่จะตั้งรัฐบาล ไปรวมพรรคกันให้ดี และอย่าไปยุ่งกับสถาบัน ตนคิดว่า ส.ว. พร้อมสนับสนุนและเห็นชอบได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าควรจะให้กระบวนการเจรจาเรียบร้อยก่อนแล้วจึงค่อยมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เสรีกล่าวว่า การเสนออะไรก็ตามอาจจะมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ประการสำคัญคือการทำงานร่วมกัน ก็ไปตกลงกันในกระบวนการการทำงาน ตนไม่ขัดข้องว่าจะวันไหน เพียงแต่ละฝ่ายที่ไปหารือกันก็ให้เหตุผล ส่วนไหนที่เหมาะที่ควรที่สุดก็เป็นไปตามที่คุยกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ส.ว. บางคนออกมาระบุว่าอยากให้เลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ออกไปก่อน เห็นด้วยหรือไม่ เสรีกล่าวว่าก็มีเหตุผล เพราะช่วงนี้เป็นช่วงวันสำคัญของชาติ ความขัดแย้งหรืออะไรที่แสดงออกต่อกันก็อาจจะทำให้ประชาชนอีกฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ในทางการเมืองเองเมื่อยังไม่ยุติก็อาจจะมีอะไรแทรกมาอีกเยอะ ตนจึงบอกให้ไปคุยกันให้ดี ใช้เหตุผลอะไรดีที่สุด ก็ไปกำหนดวันกันมา เพราะหากไปกำหนดก่อนอาจจะขัดแย้งกันตั้งแต่แรก ทุกอย่างต้องมีการพูดคุยกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากวันที่ 27 กรกฎาคมยังไม่พร้อม ก็สามารถไปพูดคุยจนได้ข้อยุติแล้วค่อยประชุมใหม่ใช่หรือไม่ เสรีกล่าวว่า นัดประชุมใหม่หรือไม่อยู่ที่ประธาน ซึ่งก็คงไปคุยกันแล้วหาเหตุผลอันสมควรแล้วจึงบอกกับประธาน เรากำหนดฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องให้เหตุผลกับประธานให้เห็นตรงกันด้วยถึงจะไปด้วยกันได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าวิปวุฒิสภาจะต้องนำไปคุยกับที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ในวันที่ 26 กรกฎาคมใช่หรือไม่ เสรีกล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเรามีตัวแทนไปเจรจาอยู่แล้ว ทั้ง สมชาย แสวงการ ส.ว. และ มหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว. ที่จะไปพูดคุยเพื่อกำหนดวัน แต่ตามหลักต้องเป็นไปตามประธานก่อนอยู่แล้ว ส่วนจะขยับอย่างไรต้องไปคุยกัน